อุลตร้าแมนออร์บ
ซีรีส์อุลตร้าชุดใหม่ถัดจากรายการ "ชินอุลตร้าแมนเร็ตสึเด็น" ที่แพร่ภาพจบลงไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2016 โดยใช้ไตเติ้ลเรื่องเป็นของตัวเอง ต่างจาก "อุลตร้าแมนกิงกะ" กับ "อุลตร้าแมน X" ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของรายการ "ชินอุลตร้าแมนเร็ตสึเด็น" ซีรีส์เรื่องนี้ยังคงได้รับเกียรติจาก คุณทางุจิ คิโยทากะ มาเป็นผู้กำกับให้อีกเช่นเคยต่อจาก "อุลตร้าแมน X" และยังมี คุณนากาโนะ ทาคาโอะ กับ คุณโคบายาชิ ยูจิ มาช่วยดูแลโครงเรื่องให้เป็นซีรีส์ชุดที่ 3 ต่อเนื่องติดๆกันมาตั้งแต่ "อุลตร้าแมนกิงกะ S" นอกจากนี้ยังมีดารานักแสดงยอดฝีมืออีกหลายคนที่เคยฝากผลงานการแสดงต่างๆเอาไว้ให้พวกเราได้เห็นผ่านหูผ่านตากันมาบ้างมาร่วมแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย อาทิเช่น คุณอิชิกุโระ ฮิเดโอะ ผู้เคยรับบทเป็น ไค บอสในซีรีส์เรื่อง "คาเมนไรเดอร์เด็นโอ" ที่คราวนี้พลิกคาแรคเตอร์จากตัวร้ายมารับบทเป็น คุเรไน ไก พระเอกของซีรีส์เรื่องนี้ แถมยังได้ คุณมิซึคิ อิจิโร่ เจ้าพ่อเพลงอนิเมะและหนังไลฟ์แอคชั่น ( จำพวกขบวนการ 5 สี , คาเมนไรเดอร์ , ตำรวจอวกาศ ฯลฯ ) มาร้องเพลงเปิดให้กับซีรีส์เรื่องนี้ซึ่งถือเป็นเพลงประกอบซีรีส์อุลตร้าแมนเรื่องแรกที่เขาเคยร้องตั้งแต่อยู่ในวงการเพลงมา 45 ปี ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจุดเด่นอย่างหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้คือการนำศิลปินผู้มีประสบการณ์มากมายมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งแตกต่างจากหนังไลฟ์แอคชั่นในช่วงหลังๆที่มักจะนำเอาทีมดารานักแสดงหน้าใหม่มาแสดงเสียเป็นส่วนใหญ่
อุลตร้าแมนออร์บ จะออกอากาศทุกเช้าวันเสาร์ เวลา 9:00 - 9:30 น. ทางสถานีเทเลบิโตเกียว ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค. 2016 เป็นต้นไป โดยมีกำหนดการแพร่ภาพทั้งสิ้น 25 ตอน
ULTRAMAN ORB ( SPECIUM SEPELLION )
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : 6.5 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 2.5 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 2 มัค
พลังกระโดด : 1,000 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก อุลตร้าแมน และ อุลตร้าแมนทีก้า
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ขอยืมพลังแห่งแสงด้วยครับ !"
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า
"ฉันมีนามว่าออร์บ ผู้นำแสงสว่างมาสู่ความมืดเพื่อขจัดความชั่วร้าย !"
ร่างนี้ถือเป็นร่างที่มีพลังความสามารถสมดุลกันมากที่สุด
ULTRAMAN ORB ( BURNMITE )
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : 11 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 2.7 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 2.4 มัค
พลังกระโดด : 900 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก อุลตร้าแมนทาโร่ และ อุลตร้าแมนเมบิอุส
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "เหล่าผู้เร่าร้อนฝากด้วยนะครับ !"
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า "ร้อนแรงดุจเปลวไฟที่แดงฉาน !"
ร่างนี้ถือเป็นร่างที่เน้นในด้านพละกำลังเป็นหลักซึ่งจะถนัดในการต่อสู้ระยะประชิด
และการใช้พลังจากเปลวไฟ
ULTRAMAN ORB ( HURRICANE SLASH )
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ความเร็วในการบิน : 13 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 4 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 3 มัค
พลังกระโดด : 1,200 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก อุลตร้าแมนแจ็ค และ อุลตร้าแมนเซโร่
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "เหล่าผู้เฉียบคมฝากด้วยนะครับ !"
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมา
ว่า "ฟาดฟันความมืดด้วยความเร็วเหนือแสง !"
ร่างนี้ถือเป็นร่างที่มีความเร็วเป็นเลิศ
ULTRAMAN ORB ( THUNDER BREASTER )
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่น 5 พันตัน
ความเร็วในการบิน : 7 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 3.5 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 2.9 มัค
พลังกระโดด : 1,100 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก โซฟี่ และ อุลตร้าแมนเบเรียล
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ขอยืมพลังแห่งแสงและความมืดด้วยครับ !"
จากนั้นเขาก็จะปรากฎตัวออกมาพร้อมกับส่งเสียงร้องคำราม โดยที่ไม่มีคำพูดจาใดๆ
แม้ว่าร่างนี้จะมีพลังอันมหาศาลเหนือกว่าร่างอื่นๆแบบเทียบไม่ติดฝุ่น
แต่สไตล์การต่อสู้ของเขาจะออกแนวดิบเถื่อน
ร่างนี้ถือเป็นร่างที่มีความเร็วเป็นเลิศ
ULTRAMAN ORB ( THUNDER BREASTER )
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่น 5 พันตัน
ความเร็วในการบิน : 7 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 3.5 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 2.9 มัค
พลังกระโดด : 1,100 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก โซฟี่ และ อุลตร้าแมนเบเรียล
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ขอยืมพลังแห่งแสงและความมืดด้วยครับ !"
จากนั้นเขาก็จะปรากฎตัวออกมาพร้อมกับส่งเสียงร้องคำราม โดยที่ไม่มีคำพูดจาใดๆ
แม้ว่าร่างนี้จะมีพลังอันมหาศาลเหนือกว่าร่างอื่นๆแบบเทียบไม่ติดฝุ่น
แต่สไตล์การต่อสู้ของเขาจะออกแนวดิบเถื่อน
และจะอาละวาดไม่ยอมหยุดจนกว่าจะล้มคู่ต่อสู้ได้
โดยไม่สนใจว่าบริเวณโดยรอบจะได้รับความเสียหายมากน้อยสักเพียงใด
ดังที่ องค์หญิงทามายูระ ได้เตือนเอาไว้ก่อนที่เขาจะแปลงร่างนี้
ว่า "พลังที่แก่กล้ามากจนเกินไปจะนำมาซึ่งภัยพิบัติ"
ULTRAMAN ORB ( ORB ORIGIN )
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
สถานที่กำเนิด : ยอดผาแห่งนักรบบนดาว O-50 ( โอฟิฟตี้ )
ความเร็วในการบิน : 8.5 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 3 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 2.5 มัค
พลังกระโดด : 800 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างดั้งเดิมของ อุลตร้าแมนออร์บ ที่แปลงร่างได้ด้วยตนเอง
โดยที่ไม่ต้องอาศัยการ ฟิวชั่นอัพ กับอุลตร้าแมนคนอื่นๆ
เขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า "แสงแห่งจักรวาล ร่ำร้องเรียกหาข้า !"
อาวุธคู่ใจของเขาคือ ดาบศักดิ์สิทธิ์ ออร์บคาลิเบอร์
ที่มีพลังของธาตุทั้ง 4 ดิน , น้ำ , ลม , ไฟ สถิตย์อยู่
หลังจากการต่อสู้กับ มากะเซ็ทต้อน ในปี ค.ศ.1908
เขาได้สูญเสียความสามารถในการแปลงร่างนี้ไป
เพราะกลัวว่าจะปลดปล่อยพลังอันทรงอานุภาพมากเกินไปเหมือนคราวนั้นออกมาอีก
แต่หลังจากที่เขาเรียกความกล้าที่จะเชื่อมั่นในตนเองกลับคืนมาได้สำเร็จ
เขาก็สามารถเปลี่ยนอุลตร้าฟิวชั่นการ์ดเปล่าๆ
ให้กลายเป็นการ์ดของ อุลตร้าแมนออร์บออริจิน จนสามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้อีกครั้ง
อุปกรณ์แปลงร่าง
ออร์บริงก์ : อุปกรณ์ที่ ไก ใช้ในการแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนออร์บ
โดยการใส่ อุลตร้าฟิวชั่นการ์ด ที่มีพลังของอุลตร้าแมนรุ่นก่อนๆสถิตย์อยู่เข้าไป 2 ใบ
อุลตร้าฟิวชั่นฟิวชั่นการ์ด ที่ว่านี้ คือ สิ่งที่จะนำมาใช้ในการผนึกจอมมารอสูร
และจะสามารถได้มันมาเมื่อกำราบ จอมมารอสูร ลงได้
ท่าไม้ตาย และ ความสามารถพิเศษ
ลำแสงสเปเรี่ยน : ท่าไม้ตายของ อุลตร้าแมนออร์บ สเปเซี่ยมเซเปเรี่ยน
ซึ่งจะปลดปล่อยพลังงานออกมาจากแขนที่ไขว้กันเป็นรูปกากบาท
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ กางแขนทั้งสองข้างออกเป็นรูปตัว L เพื่อสั่งสมพลังงาน
ขณะที่ปล่อยลำแสงนี้ออกมาจะมีแสงรูปวงแหวนปรากฎอยู่เบื้องหน้าของเขา
กงจักรแสงสเปเรี่ยน : ท่าที่เกิดจากการแปรสภาพลำแสงสเปเรี่ยนให้กลายเป็นวงแหวน
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะวาดวงแขนทั้งสองข้างออกจากกัน
เพื่อสั่งสมพลังงานก่อนที่จะเขวี้ยงออกไป
นอกจากนั้น อุลตร้าแมนออร์บ ยังสามารถเขวี้ยงกงจักรแสงหลายอัน
พร้อมกันได้ในคราเดียว
หรือว่าจะสร้างกงจักรแสงให้มีขนาดใหญ่กว่าตัวแล้วเขวี้ยงออกไปก็ได้
สโตเบี่ยมไดนาไมท์ : ท่าที่ อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้เปลวไฟห่อหุ้มร่างแล้วพุ่งเข้าชนศัตรูให้พินาศ
เช่นเดียวกับท่าไม้ตายของ อุลตร้าแมนทาโร่ และ อุลตร้าแมนเมบิอุส
สโตเบี่ยมเบิร์สต์ : ท่าที่ อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้สองแขนสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาโจมตีใส่ศัตรู
อุลตร้าแมนออร์บ ได้ใช้แรงลมจากการระเบิดของท่านี้
ในการลบล้างเปลวเพลิงของ มากะแพนด้อน ในตอนที่ 4 และ อะริบุนตะ ในตอนที่ 6
ออร์บสลักเกอร์ช็อต : ลำแสงคัตเตอร์ที่ปล่อยออกมาจากสลักเกอร์ที่อยู่บนหัว
ซึ่งสามารถควบคุมวิถีโคจรได้ดังปรารถนา
หรือว่าจะให้มันหมุนอยู่ที่มือทั้งสองข้างเพื่อใช้เป็นบาเรียป้องกันก็ได้
แถมยังสามารถหยิบหอก ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ ออกมาจากในนั้นได้ด้วย
ออร์บแลนเซอร์ชู้ต : ลำแสงพิฆาตที่ยิงออกมาจากปลายหอกด้วยการดึงคันโยกที่ ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ 1 ครั้ง
บิ๊กแบงทรัสต์ : ท่าที่ อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้หอกเสียบคู่ต่อสู้
แล้วปล่อยพลังงานเข้าไปภายในร่างกายของคู่ต่อสู้จนเกิดการระเบิดจากภายใน
ด้วยการดึงคันโยกที่ ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ 2 ครั้ง
ไทรเดนท์สแลช : อุลตร้าแมนออร์บ จะสร้างดาบแสงขึ้นมาจากปลายหอก
ด้วยการดึงคันโยกที่ ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ 3 ครั้ง
แล้วพุ่งเข้าไปฟันศัตรูแบบรัวๆโดยที่ยังคงเหลือภาพติดตาเอาไว้
ลำแสงแซ็ทเซี่ยม : ลำแสงไม้ตายที่ปล่อยออกมาโดยการไขว้แขนกันให้เป็นรูปกางเขน
ภายหลังจากที่รวบรวมพลังงานแสงและความมืดมาไว้ที่แขนทั้งสองข้าง
ขณะที่ปล่อยลำแสงนี้ออกมาจะมีวงแหวนแห่งแสงและความมืดปรากฎอยู่เบื้องหน้า
และมีสายฟ้าสีแดง , ดำ และ เหลือง ผสมอยู่ในลำแสงที่ปล่อยออกมา
ออร์บแกรนด์คาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์ปฐพีบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะปักดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ลงบนพื้นดิน
เพื่อปล่อยลำแสง 2 สาย วิ่งมาตามพื้นวาดเป็นรูปวงกลม
ออร์บเฟลมคาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์อัคคีบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้วงแหวนเพลิงที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ผนึกศัตรูก่อนที่จะใช้ดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ
โดยไม่สนใจว่าบริเวณโดยรอบจะได้รับความเสียหายมากน้อยสักเพียงใด
ดังที่ องค์หญิงทามายูระ ได้เตือนเอาไว้ก่อนที่เขาจะแปลงร่างนี้
ว่า "พลังที่แก่กล้ามากจนเกินไปจะนำมาซึ่งภัยพิบัติ"
ULTRAMAN ORB ( ORB ORIGIN )
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
สถานที่กำเนิด : ยอดผาแห่งนักรบบนดาว O-50 ( โอฟิฟตี้ )
ความเร็วในการบิน : 8.5 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 3 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 2.5 มัค
พลังกระโดด : 800 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างดั้งเดิมของ อุลตร้าแมนออร์บ ที่แปลงร่างได้ด้วยตนเอง
โดยที่ไม่ต้องอาศัยการ ฟิวชั่นอัพ กับอุลตร้าแมนคนอื่นๆ
เขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า "แสงแห่งจักรวาล ร่ำร้องเรียกหาข้า !"
อาวุธคู่ใจของเขาคือ ดาบศักดิ์สิทธิ์ ออร์บคาลิเบอร์
ที่มีพลังของธาตุทั้ง 4 ดิน , น้ำ , ลม , ไฟ สถิตย์อยู่
หลังจากการต่อสู้กับ มากะเซ็ทต้อน ในปี ค.ศ.1908
เขาได้สูญเสียความสามารถในการแปลงร่างนี้ไป
เพราะกลัวว่าจะปลดปล่อยพลังอันทรงอานุภาพมากเกินไปเหมือนคราวนั้นออกมาอีก
แต่หลังจากที่เขาเรียกความกล้าที่จะเชื่อมั่นในตนเองกลับคืนมาได้สำเร็จ
เขาก็สามารถเปลี่ยนอุลตร้าฟิวชั่นการ์ดเปล่าๆ
ให้กลายเป็นการ์ดของ อุลตร้าแมนออร์บออริจิน จนสามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้อีกครั้ง
อุปกรณ์แปลงร่าง
ออร์บริงก์ : อุปกรณ์ที่ ไก ใช้ในการแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนออร์บ
โดยการใส่ อุลตร้าฟิวชั่นการ์ด ที่มีพลังของอุลตร้าแมนรุ่นก่อนๆสถิตย์อยู่เข้าไป 2 ใบ
อุลตร้าฟิวชั่นฟิวชั่นการ์ด ที่ว่านี้ คือ สิ่งที่จะนำมาใช้ในการผนึกจอมมารอสูร
และจะสามารถได้มันมาเมื่อกำราบ จอมมารอสูร ลงได้
ท่าไม้ตาย และ ความสามารถพิเศษ
ลำแสงสเปเรี่ยน : ท่าไม้ตายของ อุลตร้าแมนออร์บ สเปเซี่ยมเซเปเรี่ยน
ซึ่งจะปลดปล่อยพลังงานออกมาจากแขนที่ไขว้กันเป็นรูปกากบาท
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ กางแขนทั้งสองข้างออกเป็นรูปตัว L เพื่อสั่งสมพลังงาน
ขณะที่ปล่อยลำแสงนี้ออกมาจะมีแสงรูปวงแหวนปรากฎอยู่เบื้องหน้าของเขา
กงจักรแสงสเปเรี่ยน : ท่าที่เกิดจากการแปรสภาพลำแสงสเปเรี่ยนให้กลายเป็นวงแหวน
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะวาดวงแขนทั้งสองข้างออกจากกัน
เพื่อสั่งสมพลังงานก่อนที่จะเขวี้ยงออกไป
นอกจากนั้น อุลตร้าแมนออร์บ ยังสามารถเขวี้ยงกงจักรแสงหลายอัน
พร้อมกันได้ในคราเดียว
หรือว่าจะสร้างกงจักรแสงให้มีขนาดใหญ่กว่าตัวแล้วเขวี้ยงออกไปก็ได้
สโตเบี่ยมไดนาไมท์ : ท่าที่ อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้เปลวไฟห่อหุ้มร่างแล้วพุ่งเข้าชนศัตรูให้พินาศ
เช่นเดียวกับท่าไม้ตายของ อุลตร้าแมนทาโร่ และ อุลตร้าแมนเมบิอุส
สโตเบี่ยมเบิร์สต์ : ท่าที่ อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้สองแขนสร้างลูกไฟขนาดใหญ่ออกมาโจมตีใส่ศัตรู
อุลตร้าแมนออร์บ ได้ใช้แรงลมจากการระเบิดของท่านี้
ในการลบล้างเปลวเพลิงของ มากะแพนด้อน ในตอนที่ 4 และ อะริบุนตะ ในตอนที่ 6
ออร์บสลักเกอร์ช็อต : ลำแสงคัตเตอร์ที่ปล่อยออกมาจากสลักเกอร์ที่อยู่บนหัว
ซึ่งสามารถควบคุมวิถีโคจรได้ดังปรารถนา
หรือว่าจะให้มันหมุนอยู่ที่มือทั้งสองข้างเพื่อใช้เป็นบาเรียป้องกันก็ได้
แถมยังสามารถหยิบหอก ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ ออกมาจากในนั้นได้ด้วย
ออร์บแลนเซอร์ชู้ต : ลำแสงพิฆาตที่ยิงออกมาจากปลายหอกด้วยการดึงคันโยกที่ ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ 1 ครั้ง
บิ๊กแบงทรัสต์ : ท่าที่ อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้หอกเสียบคู่ต่อสู้
แล้วปล่อยพลังงานเข้าไปภายในร่างกายของคู่ต่อสู้จนเกิดการระเบิดจากภายใน
ด้วยการดึงคันโยกที่ ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ 2 ครั้ง
ไทรเดนท์สแลช : อุลตร้าแมนออร์บ จะสร้างดาบแสงขึ้นมาจากปลายหอก
ด้วยการดึงคันโยกที่ ออร์บสลักเกอร์แลนซ์ 3 ครั้ง
แล้วพุ่งเข้าไปฟันศัตรูแบบรัวๆโดยที่ยังคงเหลือภาพติดตาเอาไว้
ลำแสงแซ็ทเซี่ยม : ลำแสงไม้ตายที่ปล่อยออกมาโดยการไขว้แขนกันให้เป็นรูปกางเขน
ภายหลังจากที่รวบรวมพลังงานแสงและความมืดมาไว้ที่แขนทั้งสองข้าง
ขณะที่ปล่อยลำแสงนี้ออกมาจะมีวงแหวนแห่งแสงและความมืดปรากฎอยู่เบื้องหน้า
และมีสายฟ้าสีแดง , ดำ และ เหลือง ผสมอยู่ในลำแสงที่ปล่อยออกมา
ออร์บแกรนด์คาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์ปฐพีบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะปักดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ลงบนพื้นดิน
เพื่อปล่อยลำแสง 2 สาย วิ่งมาตามพื้นวาดเป็นรูปวงกลม
ออร์บเฟลมคาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์อัคคีบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะใช้วงแหวนเพลิงที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ผนึกศัตรูก่อนที่จะใช้ดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟ
ฟาดฟันศัตรูจนขาดเป็นสองเสี่ยง
ออร์บวอเตอร์คาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์วารีบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะปล่อยกระแสน้ำออกมาผนึกการเคลื่อนไหวของศัตรูเอาไว้
ก่อนที่จะปิดฉากโดยการฟันด้วยดาบออร์บคาลิเบอร์
ออร์บวินด์คาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์วายุบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะกวัดแกว่งดาบออร์บคาลิเบอร์
เพื่อสร้างพายุหมุนขนาดยักษ์พัดให้ศัตรูลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
ออร์บสุพรีมคาลิเบอร์ : ลำแสงไม้ตายสีรุ้งที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ นำดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ไปอ่านกับออร์บริงก์
เพื่อปลดปล่อยพลังออกมา จากนั้นเขาจะชูดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ขึ้นฟ้า
แล้ววาดเป็นรูปวงกลมก่อนที่จะปลดปล่อยท่านี้ออกมา
ตอนที่ อุลตร้าแมนออร์บ ใช้ท่านี้กับ มากะเซ็ทต้อน
เขาไม่สามารถที่จะควบคุมพลังได้ เนื่องจากท่านี้มีอานุภาพที่ทรงพลังมากเกินไป
จนทำให้ดาบ ออร์บคาลิเบอร์ แหลกเป็นเสี่ยงๆ
และทำให้บริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ออร์บวอเตอร์คาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์วารีบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะปล่อยกระแสน้ำออกมาผนึกการเคลื่อนไหวของศัตรูเอาไว้
ก่อนที่จะปิดฉากโดยการฟันด้วยดาบออร์บคาลิเบอร์
ออร์บวินด์คาลิเบอร์ : ท่าไม้ตายที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ เลือกตราสัญลักษณ์วายุบนดาบออร์บคาลิเบอร์
โดย อุลตร้าแมนออร์บ จะกวัดแกว่งดาบออร์บคาลิเบอร์
เพื่อสร้างพายุหมุนขนาดยักษ์พัดให้ศัตรูลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า
ออร์บสุพรีมคาลิเบอร์ : ลำแสงไม้ตายสีรุ้งที่ปล่อยออกมาจากดาบออร์บคาลิเบอร์
ภายหลังจากที่ อุลตร้าแมนออร์บ นำดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ไปอ่านกับออร์บริงก์
เพื่อปลดปล่อยพลังออกมา จากนั้นเขาจะชูดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ขึ้นฟ้า
แล้ววาดเป็นรูปวงกลมก่อนที่จะปลดปล่อยท่านี้ออกมา
ตอนที่ อุลตร้าแมนออร์บ ใช้ท่านี้กับ มากะเซ็ทต้อน
เขาไม่สามารถที่จะควบคุมพลังได้ เนื่องจากท่านี้มีอานุภาพที่ทรงพลังมากเกินไป
จนทำให้ดาบ ออร์บคาลิเบอร์ แหลกเป็นเสี่ยงๆ
และทำให้บริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
จากแรงระเบิดของมากะเซ็ทต้อน
แต่หลังจากที่เขานำพลังกลับคืนมาได้ เขาก็สามารถที่จะควบคุมพลังนี้ได้สำเร็จ
ตัวละครหลัก
คุเรไน ไก : นักรบแห่งแสงผู้เดินทางมาจากสุดขอบจักรวาล
เพื่อยับยั้งการคืนชีพของเหล่าจอมมารอสูรและปกป้องโลกใบนี้เอาไว้
เขาได้ตระเวนเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆบนโลกมาเป็นระยะเวลานาน
พร้อมกับคอยบรรเลงเสียงเพลงจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "ออร์บนิก้า"
ในฐานะของนักพเนจรที่มีชื่อว่า คุเรไน ไก
เขาสามารถ ฟิวชั่นอัพ ( แปลงร่าง ) กลับไปเป็น อุลตร้าแมนออร์บ ได้
โดยการนำ "ออร์บริงก์" ไปอ่านการ์ดที่มีพลังของนักรบอุลตร้ารุ่นก่อนๆสิงสถิตย์อยู่ 2 ใบ
( ผู้รับบท : อิชิกุโระ ฮิเดโอะ )
จากลาส จั๊กเกลอร์ : ศัตรูคู่ปรับของ อุลตร้าแมนออร์บ ผู้มีสมรรถภาพร่างกายอันเป็นเลิศ
ภายนอกเขาจะสวมชุดสูทที่ดูเท่ห์
แต่หลังจากที่เขานำพลังกลับคืนมาได้ เขาก็สามารถที่จะควบคุมพลังนี้ได้สำเร็จ
ตัวละครหลัก
คุเรไน ไก : นักรบแห่งแสงผู้เดินทางมาจากสุดขอบจักรวาล
เพื่อยับยั้งการคืนชีพของเหล่าจอมมารอสูรและปกป้องโลกใบนี้เอาไว้
เขาได้ตระเวนเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆบนโลกมาเป็นระยะเวลานาน
พร้อมกับคอยบรรเลงเสียงเพลงจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "ออร์บนิก้า"
ในฐานะของนักพเนจรที่มีชื่อว่า คุเรไน ไก
เขาสามารถ ฟิวชั่นอัพ ( แปลงร่าง ) กลับไปเป็น อุลตร้าแมนออร์บ ได้
โดยการนำ "ออร์บริงก์" ไปอ่านการ์ดที่มีพลังของนักรบอุลตร้ารุ่นก่อนๆสิงสถิตย์อยู่ 2 ใบ
( ผู้รับบท : อิชิกุโระ ฮิเดโอะ )
จากลาส จั๊กเกลอร์ : ศัตรูคู่ปรับของ อุลตร้าแมนออร์บ ผู้มีสมรรถภาพร่างกายอันเป็นเลิศ
ภายนอกเขาจะสวมชุดสูทที่ดูเท่ห์
แต่ภายในดวงตาของเขานั้นกลับแฝงไปด้วยความคลุ้มคลั่ง
เขาคือผู้ที่เคลื่อนไหวอยู่ในเงามืดอย่างลับๆ
เขาคือผู้ที่เคลื่อนไหวอยู่ในเงามืดอย่างลับๆ
ในการต่อสู้ระหว่าง อุลตร้าแมนออร์บ กับ จอมมารอสูร
โดยหมายจะใช้ ดาร์คริงก์ กับ การ์ดสัตว์ประหลาด คืนชีพพวกจอมมารอสูรขึ้นมา
แต่ทว่า,วัตถุประสงค์ที่เขาทำเช่นนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ในตอนนี้
( ผู้รับบท : อาโอยางิ ทาคายะ )
SSP ( SOMETHING SEARCH PEOPLE )
เว็บไซต์สืบเสาะปรากฎการณ์ประหลาดที่จะคอยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารต่างๆโดยยึดถือคติประจำใจว่าพวกเขาจะต้อง "ไขเรื่องเร้นลับและปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนโลกให้กระจ่าง" SSP จะมีสมาชิกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน ซึ่งพวกเขาจะขับรถยนต์ประจำทีม SSP-7 คอยไล่ตาม อุลตร้าแมนออร์บ และสัตว์ประหลาดเพื่อนำมาลงข่าว
สมาชิกทีม
ยูเมโนะ นาโอมิ : จากการที่เธอมักจะฝันเห็น "มนุษย์ยักษ์แห่งแสง" อยู่บ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก
นั่นจึงเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้เธอคิดริเริ่มที่จะสร้างเว็บไซต์สืบเสาะปรากฎการณ์ประหลาด
"SSP" ขึ้นมา ภายหลังจากที่เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัย
โดยเธอจะทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม SSP คอยไขปริศนาของปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ
หรือปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนโลก
โดยหมายจะใช้ ดาร์คริงก์ กับ การ์ดสัตว์ประหลาด คืนชีพพวกจอมมารอสูรขึ้นมา
แต่ทว่า,วัตถุประสงค์ที่เขาทำเช่นนั้นยังคงเป็นปริศนาอยู่ในตอนนี้
( ผู้รับบท : อาโอยางิ ทาคายะ )
SSP ( SOMETHING SEARCH PEOPLE )
เว็บไซต์สืบเสาะปรากฎการณ์ประหลาดที่จะคอยแพร่กระจายข้อมูลข่าวสารต่างๆโดยยึดถือคติประจำใจว่าพวกเขาจะต้อง "ไขเรื่องเร้นลับและปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนโลกให้กระจ่าง" SSP จะมีสมาชิกอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน ซึ่งพวกเขาจะขับรถยนต์ประจำทีม SSP-7 คอยไล่ตาม อุลตร้าแมนออร์บ และสัตว์ประหลาดเพื่อนำมาลงข่าว
ตราสัญลักษณ์ของ SSP
สมาชิกทีม
ยูเมโนะ นาโอมิ : จากการที่เธอมักจะฝันเห็น "มนุษย์ยักษ์แห่งแสง" อยู่บ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก
นั่นจึงเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้เธอคิดริเริ่มที่จะสร้างเว็บไซต์สืบเสาะปรากฎการณ์ประหลาด
"SSP" ขึ้นมา ภายหลังจากที่เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัย
โดยเธอจะทำหน้าที่เป็นกัปตันทีม SSP คอยไขปริศนาของปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ
หรือปรากฎการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นบนโลก
แต่เนื่องจากเธอขาดสภาพคล่องในการทำเว็บไซต์
เธอจึงต้องคอยหางานพิเศษทำหลายๆอย่างเพื่อนำเงินมาจุนเจือทีม
( ผู้รับบท : มัตสึอุระ มิยาบิ )
ฮายามิ เจ็ทตะ : เพื่อนของ นาโอมิ ที่รู้จักกันตอนอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งทีม SSP ขึ้นมา
โดยเขาจะทำหน้าที่เป็นคนอัพเดทข้อมูลบนเว็บไซต์และเป็นตากล้องให้กับทีม
เขามักจะเรียกขานตัวเองว่า "บรุษนักผจญภัยผูู้ล้วงลึกข้อมูล" ที่ชอบเรื่องสนุกๆน่าสนใจ
เขามีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง UFO และ UMA เป็นอย่างดี
ความฝันของเขาคือการทำสกู๊ปข่าวที่ทำให้โลกต้องตกตะลึงจนกลายเป็นคนดังผู้ร่ำรวย
( ผู้รับบท : ทาคาฮาชิ นาโอโตะ )
มัตสึโดะ ชิน : อัจฉริยะผู้เรียนข้ามชั้นมหาวิทยาลัยและจบปริญญาเอกได้ด้วยวัยเพียง 23 ปี
เขาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลให้กับทีม SSP
ด้วยความรู้ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางตั้งแต่วิชาฟิสิกส์ล้ำยุคล้ำสมัย
ไปจนถึงตำนานแห่งอารยธรรมโบราณ แต่ทว่า,เรื่องทั่วๆไปในบางเรื่องเขากลับไม่ยักรู้
เขามักจะค้นคว้าวิจัยและประดิษฐ์สิ่งต่างๆที่ดูมีเอกลักษณ์ขึ้นมาอยู่เสมอ
แต่พวกนาโอมิกลับไม่เข้าใจในความคิดของเขา
( ผู้รับบท : เนริโอะ ฮิโรอากิ )
ชิบุคาวะ อิทเท็ตสึ : คุณอาของ นาโอมิ กัปตันทีม SSP ซึ่งสังกัดอยู่ในหน่วยไวทอล
( VTL = Versatile Tactical Leader ) ของทีมสืบสวนพิเศษ
เขาเป็นยอดฝีมือด้านยูโดขั้น 5 ดั้ง และเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง
แถมยังมีอัธยาศัยดี ดังนั้นเขาจึงเป็นที่พึ่งพาให้พวกนาโอมิได้
แม้ว่าเขาจะเป็นห่วง นาโอมิ หลานสาวที่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ
อย่างการออกไปตามหาข่าวปรากฎการณ์ประหลาด
แต่พอเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นทีไร เขาก็มักจะนำข้อมูลไปให้ทีม SSP อยู่บ่อยๆ
( ผู้รับบท : ยานางิซาวะ ชินโกะ )
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในซีรีส์ Ultraman Orb
ตอนที่ 1 "คนพเนจรในยามตะวันลับฟ้า"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งแสง MAGA Z-TON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งแสงที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมน" สะกดเอาไว้
เธอจึงต้องคอยหางานพิเศษทำหลายๆอย่างเพื่อนำเงินมาจุนเจือทีม
( ผู้รับบท : มัตสึอุระ มิยาบิ )
ฮายามิ เจ็ทตะ : เพื่อนของ นาโอมิ ที่รู้จักกันตอนอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งทีม SSP ขึ้นมา
โดยเขาจะทำหน้าที่เป็นคนอัพเดทข้อมูลบนเว็บไซต์และเป็นตากล้องให้กับทีม
เขามักจะเรียกขานตัวเองว่า "บรุษนักผจญภัยผูู้ล้วงลึกข้อมูล" ที่ชอบเรื่องสนุกๆน่าสนใจ
เขามีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง UFO และ UMA เป็นอย่างดี
ความฝันของเขาคือการทำสกู๊ปข่าวที่ทำให้โลกต้องตกตะลึงจนกลายเป็นคนดังผู้ร่ำรวย
( ผู้รับบท : ทาคาฮาชิ นาโอโตะ )
มัตสึโดะ ชิน : อัจฉริยะผู้เรียนข้ามชั้นมหาวิทยาลัยและจบปริญญาเอกได้ด้วยวัยเพียง 23 ปี
เขาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลให้กับทีม SSP
ด้วยความรู้ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางตั้งแต่วิชาฟิสิกส์ล้ำยุคล้ำสมัย
ไปจนถึงตำนานแห่งอารยธรรมโบราณ แต่ทว่า,เรื่องทั่วๆไปในบางเรื่องเขากลับไม่ยักรู้
เขามักจะค้นคว้าวิจัยและประดิษฐ์สิ่งต่างๆที่ดูมีเอกลักษณ์ขึ้นมาอยู่เสมอ
แต่พวกนาโอมิกลับไม่เข้าใจในความคิดของเขา
( ผู้รับบท : เนริโอะ ฮิโรอากิ )
ชิบุคาวะ อิทเท็ตสึ : คุณอาของ นาโอมิ กัปตันทีม SSP ซึ่งสังกัดอยู่ในหน่วยไวทอล
( VTL = Versatile Tactical Leader ) ของทีมสืบสวนพิเศษ
เขาเป็นยอดฝีมือด้านยูโดขั้น 5 ดั้ง และเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง
แถมยังมีอัธยาศัยดี ดังนั้นเขาจึงเป็นที่พึ่งพาให้พวกนาโอมิได้
แม้ว่าเขาจะเป็นห่วง นาโอมิ หลานสาวที่ชอบทำอะไรเสี่ยงๆ
อย่างการออกไปตามหาข่าวปรากฎการณ์ประหลาด
แต่พอเกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นทีไร เขาก็มักจะนำข้อมูลไปให้ทีม SSP อยู่บ่อยๆ
( ผู้รับบท : ยานางิซาวะ ชินโกะ )
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในซีรีส์ Ultraman Orb
ตอนที่ 1 "คนพเนจรในยามตะวันลับฟ้า"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งแสง MAGA Z-TON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งแสงที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมน" สะกดเอาไว้
ในป่าแถบทวีปยุโรปเหนือเมื่อ 108 ปีก่อน
วัตถุเรืองแสงที่อยู่บนใบหน้าของมัน
วัตถุเรืองแสงที่อยู่บนใบหน้าของมัน
จะมีความแตกต่างจาก เซ็ทต้อน ที่เคยปรากฎตัวในซีรีส์ภาคก่อนๆ
ตรงที่มันเป็นผลึกคริสตัลที่เรียกว่า มากะคริสตัล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจอมมารอสูร
และวัตถุเรืองแสงที่อยู่ตรงหน้าอกก็จะเปล่งแสงเป็นสีน้ำเงินแทน
ในฉากย้อนอดีตที่ปรากฎในช่วงแรก
มันได้เปิดฉากต่อสู้กับ อุลลตร้าแมนออร์บ ในร่างเรืองแสงอยู่ ณ.ใจกลางหุบเขาแห่งหนึ่ง
และสุดท้ายก็โดนลำแสงสีรุ้งที่ปล่อยออกมาจากอาวุธปริศนาของ อุลตร้าแมนออร์บ
ตรงที่มันเป็นผลึกคริสตัลที่เรียกว่า มากะคริสตัล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของจอมมารอสูร
และวัตถุเรืองแสงที่อยู่ตรงหน้าอกก็จะเปล่งแสงเป็นสีน้ำเงินแทน
ในฉากย้อนอดีตที่ปรากฎในช่วงแรก
มันได้เปิดฉากต่อสู้กับ อุลลตร้าแมนออร์บ ในร่างเรืองแสงอยู่ ณ.ใจกลางหุบเขาแห่งหนึ่ง
และสุดท้ายก็โดนลำแสงสีรุ้งที่ปล่อยออกมาจากอาวุธปริศนาของ อุลตร้าแมนออร์บ
ระเบิดสูญสลายไป
พร้อมกับพลังอานุภาพอันรุนแรงที่ทำลายอาณาบริเวณโดยรอบจนพังพินาศ
และทำให้เด็กผู้หญิงชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุพลอยถูกลูกหลงไปด้วย
เหตุการณ์นั้นจึงเป็นแผลใจที่ทำให้ อุลตร้าแมนออร์บ ตกสู่เงามืด
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งวายุ MAGABASSER
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งวายุที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมนเมบิอุส" สะกดเอาไว้
และหลับไหลอยู่ที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์
มันมีปีกขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างคลื่นอัดกระแทก ( คลื่นอัดกระแทกมากะ )
พร้อมกับพลังอานุภาพอันรุนแรงที่ทำลายอาณาบริเวณโดยรอบจนพังพินาศ
และทำให้เด็กผู้หญิงชาวต่างชาติคนหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุพลอยถูกลูกหลงไปด้วย
เหตุการณ์นั้นจึงเป็นแผลใจที่ทำให้ อุลตร้าแมนออร์บ ตกสู่เงามืด
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งวายุ MAGABASSER
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งวายุที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมนเมบิอุส" สะกดเอาไว้
และหลับไหลอยู่ที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์
มันมีปีกขนาดใหญ่ที่สามารถสร้างคลื่นอัดกระแทก ( คลื่นอัดกระแทกมากะ )
ด้วยแรงอัดอากาศได้
แถมมันยังสามารถหมุนตัวอยู่บนฟ้า
แถมมันยังสามารถหมุนตัวอยู่บนฟ้า
เพื่อสร้างพายุหมุนหลายลูก ( มากะพายุ ) จากก้อนเมฆสีดำ
ที่มันสร้างขึ้นมาได้อีกด้วย
ตอนที่ 2 "จอมมารแห่งปฐพี"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งปฐพี MAGAGRANDKING
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 215,000 ตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งปฐพีที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมนทาโร่" สะกดเอาไว้
ตอนที่ 2 "จอมมารแห่งปฐพี"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งปฐพี MAGAGRANDKING
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 215,000 ตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งปฐพีที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมนทาโร่" สะกดเอาไว้
และหลับไหลอยู่ที่ใต้ดินส่วนลึก
ซึ่งมีบันทึกอยู่ในรายงานสภาพภูมิอากาศแห่งภาคพื้นแปซิฟิก
ว่ามันคือ "ปีศาจยักษ์ที่สร้างความวิบัติหายนะให้แก่ผืนปฐพี" เช่นเดียวกับมากะบาสเซอร์
จั๊กเกลอร์ ได้ใช้พลังจากการ์ดของเหล่าสัตว์ประหลาดใต้พิภพ
ทำให้พื้นดินตรงบริเวณอาคารที่ตั้งอยู่บนชีพจรมังกรที่ผนึกมันเอาไว้ทรุดตัวจนถล่มลงมา
และเมื่อผนึกตามพื้นที่ต่างๆถูกคลายออกจนหมด
มันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างสมบูรณ์และปรากฎโฉมออกมาให้เห็นบนพื้นดิน
ผิวหนังของมันมีความแข็งแกร่งทนทานมาก
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการโจมตีในรูปแบบใดก็ไม่สามารถทำให้มันรู้สึกระคายเคืองผิวได้
หรือแม้แต่ ลำแสงสเปเรี่ยน เองก็ยังใช้กับมันไม่ได้ผล
นอกจากมันจะปล่อยพลังงานจากทั่วร่างเพื่อทำให้สิ่งที่อยู่รอบข้างตัวมันปลิวกระเด็นไปได้แล้ว
( ประกายแสงมากะ ) มันยังมีลำแสงทำลายล้างที่ปล่อยออกมาจากลำตัว
ซึ่งมีอานุภาพรุนแรงถึงขนาดทำให้อาคารเป็นรูโบ๋ได้ ( มากะทะลุทะลวง )
ตอนที่ 3 "น่านน้ำของสัตว์ประหลาด"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งวารี MAGAJAPPA
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งวารีที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมนแจ็ค" สะกดเอาไว้
ซึ่งมีบันทึกอยู่ในรายงานสภาพภูมิอากาศแห่งภาคพื้นแปซิฟิก
ว่ามันคือ "ปีศาจยักษ์ที่สร้างความวิบัติหายนะให้แก่ผืนปฐพี" เช่นเดียวกับมากะบาสเซอร์
จั๊กเกลอร์ ได้ใช้พลังจากการ์ดของเหล่าสัตว์ประหลาดใต้พิภพ
ทำให้พื้นดินตรงบริเวณอาคารที่ตั้งอยู่บนชีพจรมังกรที่ผนึกมันเอาไว้ทรุดตัวจนถล่มลงมา
และเมื่อผนึกตามพื้นที่ต่างๆถูกคลายออกจนหมด
มันก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างสมบูรณ์และปรากฎโฉมออกมาให้เห็นบนพื้นดิน
ผิวหนังของมันมีความแข็งแกร่งทนทานมาก
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการโจมตีในรูปแบบใดก็ไม่สามารถทำให้มันรู้สึกระคายเคืองผิวได้
หรือแม้แต่ ลำแสงสเปเรี่ยน เองก็ยังใช้กับมันไม่ได้ผล
นอกจากมันจะปล่อยพลังงานจากทั่วร่างเพื่อทำให้สิ่งที่อยู่รอบข้างตัวมันปลิวกระเด็นไปได้แล้ว
( ประกายแสงมากะ ) มันยังมีลำแสงทำลายล้างที่ปล่อยออกมาจากลำตัว
ซึ่งมีอานุภาพรุนแรงถึงขนาดทำให้อาคารเป็นรูโบ๋ได้ ( มากะทะลุทะลวง )
ตอนที่ 3 "น่านน้ำของสัตว์ประหลาด"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งวารี MAGAJAPPA
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งวารีที่ถูกการ์ด "อุลตร้าแมนแจ็ค" สะกดเอาไว้
และหลับไหลอยู่ที่ใต้ก้นทะเลสาบ
มันสามารถพ่นกระแสน้ำออกมาจากปลายจมูก ( กระแสธารมากะ )
แล้วใช้ก๊าซที่ปล่อยออกมาจากปุ่มดูดที่อยู่ตรงแขนทั้งสองข้างเข้าโอบล้อมคู่ต่อสู้
ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างดูดคู่ต่อสู้ที่กระดิกกระเดี้ยวไม่ได้เข้าไปหาตัวของมัน ( มากะดึงดูด )
นอกจากนี้มันยังสามารถปล่อยก๊าซเน่าออกมาจากปาก ( มากะกลิ่นเหม็น )
เพื่อใช้ในการโจมตีได้อีกทางหนึ่ง
ตอนที่ 4 "ระวังไฟบนท้องฟ้ากลางฤดูร้อน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งอัคคี MAGAPANDON
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งอัคคีที่ตื่นขึ้นมาจากการถูกสะกดเอาไว้ด้วยการ์ด "อุลตร้าแมนเซโร่"
แล้วหลบซ่อนตัวอยู่ในลูกไฟ
มันสามารถใช้เพลิงความร้อนสูง ( ลูกไฟมากะ )
และกระสุนไฟบรรลัยกัลป์โจมตีได้จากทั่วทุกทิศทาง ( กระสุนไฟบรรลัยกัลป์มากะ )
ตอนที่ 5 "จิตใจที่ไม่ถอยหนี"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มังกรอวกาศ HYPER Z-TON DEATHSCYTHE
ความสูง : 5 ~ 70 เมตร
น้ำหนัก : 500 กิโลกรัม ~ 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ไฮเปอร์เซ็ทต้อนที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์ดาวเซ็ทต้อนที่มีนามว่า "เมอร์ด็อก"
และมีจุดเด่นอยู่ตรงเคียวที่แขนทั้งสองข้าง
บวกกับความสามารถอีกหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นการกระโดดเตะ
โดยใช้ท่าเคลื่อนทืี่ในพริบตา ( ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเทเลพอร์ท ) ให้เป็นประโยชน์
หรือท่าป้องกันตัวด้วยบาเรียที่สามารถสะท้อนการโจมตีได้ทุกรูปแบบ
มันสามารถพ่นกระแสน้ำออกมาจากปลายจมูก ( กระแสธารมากะ )
แล้วใช้ก๊าซที่ปล่อยออกมาจากปุ่มดูดที่อยู่ตรงแขนทั้งสองข้างเข้าโอบล้อมคู่ต่อสู้
ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างดูดคู่ต่อสู้ที่กระดิกกระเดี้ยวไม่ได้เข้าไปหาตัวของมัน ( มากะดึงดูด )
นอกจากนี้มันยังสามารถปล่อยก๊าซเน่าออกมาจากปาก ( มากะกลิ่นเหม็น )
เพื่อใช้ในการโจมตีได้อีกทางหนึ่ง
ตอนที่ 4 "ระวังไฟบนท้องฟ้ากลางฤดูร้อน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรแห่งอัคคี MAGAPANDON
ความสูง : 40 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จอมมารอสูรแห่งอัคคีที่ตื่นขึ้นมาจากการถูกสะกดเอาไว้ด้วยการ์ด "อุลตร้าแมนเซโร่"
แล้วหลบซ่อนตัวอยู่ในลูกไฟ
มันสามารถใช้เพลิงความร้อนสูง ( ลูกไฟมากะ )
และกระสุนไฟบรรลัยกัลป์โจมตีได้จากทั่วทุกทิศทาง ( กระสุนไฟบรรลัยกัลป์มากะ )
ตอนที่ 5 "จิตใจที่ไม่ถอยหนี"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มังกรอวกาศ HYPER Z-TON DEATHSCYTHE
ความสูง : 5 ~ 70 เมตร
น้ำหนัก : 500 กิโลกรัม ~ 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ไฮเปอร์เซ็ทต้อนที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์ดาวเซ็ทต้อนที่มีนามว่า "เมอร์ด็อก"
และมีจุดเด่นอยู่ตรงเคียวที่แขนทั้งสองข้าง
บวกกับความสามารถอีกหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นการกระโดดเตะ
โดยใช้ท่าเคลื่อนทืี่ในพริบตา ( ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเทเลพอร์ท ) ให้เป็นประโยชน์
หรือท่าป้องกันตัวด้วยบาเรียที่สามารถสะท้อนการโจมตีได้ทุกรูปแบบ
( ไฮเปอร์เซ็ทต้อนบาเรีย )
รวมถึงกระสุนเพลิงพลังงานความร้อนสูงที่มีอุณหภูมิมากกว่า 1 ล้านล้านองศา
รวมถึงกระสุนเพลิงพลังงานความร้อนสูงที่มีอุณหภูมิมากกว่า 1 ล้านล้านองศา
( กระสุนเพลิงทมิฬ )
ตอนที่ 6 "ผืนป่าที่ห้ามเข้า"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ยอดอสูรมดยักษ์ ARIBUNTA
ความสูง : 57 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ยอดอสูรมดยักษ์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากการรวมร่าง
ตอนที่ 6 "ผืนป่าที่ห้ามเข้า"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ยอดอสูรมดยักษ์ ARIBUNTA
ความสูง : 57 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ยอดอสูรมดยักษ์ที่ถือกำเนิดขึ้นมาจากการรวมร่าง
ระหว่างมดสายพันธุ์กินเนื้อกับสัตว์ประหลาดอวกาศ
มันจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดินแล้วใช้หลุมทรายดูดต่างมิติคอยลากเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายลงไป
โดยมีกรดฟอร์มิกอานุภาพร้ายแรงที่สามารถกัดกร่อนวัตถุได้ทุกชนิด
และเปลวเพลิงที่ปล่อยออกมาจากเล็บทั้งสองข้างเป็นอาวุธ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวผู้ชั่วร้าย ALIEN MEFILAS NOSTRA
ความสูง : ไม่ปรากฎแน่ชัด
น้ำหนัก : ไม่ปรากฎแน่ชัด
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวผู้ชั่วร้ายซึ่งเป็นผู้นำของสมาพันธ์รุกรานดาวเคราะห์
และได้รับการขนานนามว่า "ดอน นอสทร่า"
โดยมี มนุษย์ดาวเมทรอน ทัลเด้ และ มนุษย์ต่าวดาวจอมลอบสังหาร ชาวดาวนัคเคิ่ล
โดยมีกรดฟอร์มิกอานุภาพร้ายแรงที่สามารถกัดกร่อนวัตถุได้ทุกชนิด
และเปลวเพลิงที่ปล่อยออกมาจากเล็บทั้งสองข้างเป็นอาวุธ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวผู้ชั่วร้าย ALIEN MEFILAS NOSTRA
ความสูง : ไม่ปรากฎแน่ชัด
น้ำหนัก : ไม่ปรากฎแน่ชัด
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวผู้ชั่วร้ายซึ่งเป็นผู้นำของสมาพันธ์รุกรานดาวเคราะห์
และได้รับการขนานนามว่า "ดอน นอสทร่า"
โดยมี มนุษย์ดาวเมทรอน ทัลเด้ และ มนุษย์ต่าวดาวจอมลอบสังหาร ชาวดาวนัคเคิ่ล
เป็นลูกสมุน
ตอนที่ 7 "วันพรุ่งนี้ในม่านหมอก"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดกรดกำมะถัน HOE
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดกรดกำมะถันที่ปรากฎตัวขึ้นมาจากพลังงานด้านลบของมนุษย์
มันจะหลั่งน้ำตากรดกำมะถันออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
และสามารถใช้พลังงานด้านลบในการแปรสภาพสารประกอบของกรดกำมะถัน
ให้กลายเป็นลำแสงกรดกำมะถันแล้วยิงออกมาจากปากและดวงตาได้
ตอนที่ 8 "มนุษย์เงือกในเมืองกรุง"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณ RAGON ( 2 แม่ลูก )
ความสูง : 2 เมตร
น้ำหนัก : 100 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณที่ปกติจะมีนิสัยสงบเสงี่ยมเรียบร้อยและชื่นชอบในเสียงเพลง
แต่พอมันโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ มันก็จะสำแดงพลังระดับช้างสารออกมา
คาดกันว่าพวกมันเป็นสัตว์สายพันธุ์ที่วิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลาน
ซึ่งเคยปกครองโลกนี้เมื่อ 2 ร้อยล้านปีก่อน
ขณะที่พวกมันกำลังขึ้นฝั่งมาหาอาหาร
คุณเก็นเจ้าของร้านขายปลาก็ได้พาพวกมันไปหลบซ่อนตัว
เพื่อไม่ให้มีใครมาพบเห็นพวกมันเข้า
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึก GUBILA
ความยาว : 50 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึกที่สามารถใช้สว่านตรงปลายจมูกในการขุดเจาะดำดินได้
แถมยังมีครีบขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการแหวกว่ายอยู่ใต้ทะเลลึกด้วยความเร็วสูง
หรือถึงแม้ว่ามันจะอยู่บนบก แต่มันก็ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างแคล่วคล่องว่องไวอยู่ดี
มันจะใช้สว่านตรงปลายจมูกที่หมุนด้วยความเร็วสูง
ในการเจาะทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นรูพรุนไปเสียหมด
หลังจากที่มันกินปลาที่อยู่ในทะเลไปจนหมดแล้ว
มันจึงคิดจะมาบุกโกดังเก็บอาหารทะเลที่อยู่บนบกต่อ
ตอนที่ 9 "บทเพลงอันแสนเศร้าของตัวปลอม"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวทมิฬ ALIEN BABARU BABARYU
ความสูง : 2 ~ 56 เมตร
น้ำหนัก : 140 กิโลกรัม ~ 2 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวทมิฬผู้มีความสามารถในการแปลงกาย
และมี ใบมีดคัตเตอร์ที่แขนขวา กับ โซ่ลูกตุ้มที่แขนซ้าย เป็นอาวุธ
มนุษย์ดาวเมฟิราส นอสทร่า รู้สึกถูกใจในวิชาแปลงโฉมได้ดั่งใจนึกของมัน
จึงได้ออกคำสั่งให้มันปลอมตัวเป็นอุลตร้าแมนออร์บ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดจอมอาละวาดแห่งอวกาศ KELBEAM
ความสูง : 44 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 4 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดอวกาศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและอาวุธอันทรงพลัง
อยู่ตรงเขาขนาดใหญ่อันแหลมคมที่อยู่บนหัวกับหางติดลูกตุ้มปลายแหลมที่ยาวเฟื้อย
นอกจากนั้นยังมี "เอ็กซ์คลูซีฟสปิทนำวิถี"
กระสุนเพลิง 3 พันองศาที่ปล่อยออกมาจากปากของมันเป็นอาวุธที่ร้ายกาจอยู่อีกอย่างหนึ่ง
ตอนที่ 10 "จั๊กเกลอร์สิ้นชีพ !"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดผู้คุ้มกัน BLACKKING
ความสูง : 65 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่มีร่างกายอันแข็งแกร่งทนทาน
ถึงขนาดสามารถสะท้อนลำแสงอันทรงพลังให้กระเด็นออกไปได้
แถมยังมี ลำแสงที่พ่นออกมาจากปาก กับ ท่อนแขนอันทรงพลัง เป็นอาวุธที่ร้ายกาจ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ปีศาจมายาไร้สิ้นสูญ JUGGLUS JUGGLER
ความสูง : ไม่ปรากฎแน่ชัด
น้ำหนัก : ไม่ปรากฎแน่ชัด
ลักษณะพิเศษ : ศัตรูคู่อาฆาตของ ไก ผู้วางแผนที่จะใช้การ์ดสัตว์ประหลาด
ในการฟื้นคืนชีพ มากะโอโรจิ จ้าวแห่งจอมมารอสูร
มันมีอายุยืนยาวเหมือนกับ ไก และคอยเคลื่อนไหวอย่างลับๆ
อยู่ในเงามืดของประวัติศาสตร์มาโดยตลอด
มันมีความคิดแตกต่างจาก ไก ที่ "ไม่ต้องการให้มนุษย์เข้ามาพัวพันในการต่อสู้"
แต่สำหรับมันแล้วมนุษย์จะเป็นอย่างไรก็ช่าง
อาวุธคู่ใจของมันคือ "ดาบจิตพยาบาท" ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่จะตัดไม่ขาด
ตอนที่ 11 "ยุ่งล่ะสิ ! คุณแม่มาแล้ว !"
ตอนที่ 12 "พรจากราชันย์ทมิฬ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จ้าวแห่งจอมมารอสูร MAGAOROCHI
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 8 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : จ้าวแห่งจอมมารอสูรที่ จั๊กเกลอร์ เป็นผู้คลายผนึกปลดปล่อยมันออกมา
มันได้บินจาก มอนสเตอร์กาแลคซี่ มายังโลก
และถูกผนึกสะกดเอาไว้จากการต่อสู้เมื่อครั้งอดีตกาล
แต่ทว่า,ไข่ของมันได้ถูกฝังเอาไว้ในส่วนลึกของดวงดาว
จากนั้นมันจะค่อยๆกัดกินดาวดวงนั้นแล้วเจริญเติบโตขึ้น
พอมันกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเข้าไปจนหมดสิ้น
จนทำให้ดาวดวงนั้นกลายเป็นดาวมรณะแล้ว มันก็จะบินไปยังดาวดวงอื่น
อาวุธที่ร้ายกาจของมัน คือ พลังสายฟ้าฟาดที่ปล่อยออกมาจากปาก ( มากะอสุนีบาต )
ตอนที่ 13 "การชำระล้างจิตใจครั้งใหญ่"
ตอนที่ 14 "คุณธรรมอันคลุ้มคลั่ง"
ตอนที่ 15 "Never Say Never"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : CIVIL JUDGEMENTER GALACTRON
ความสูง : 61 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จักรกลผู้พิพากษาที่บินมายังโลกจากมิติอื่น
ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนวัตถุปริศนาที่เหนือกว่ากฎเกณฑ์ทางกายภาพ
อาทิเช่น ระบบกันสะเทือนด้วยสปรืงที่มีลักษณะคล้ายเจล
นอกจากนี้มันยังมีท่าโจมตีอันทรงพลังอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น กาแลคตรอนชาฟท์ ที่ยืดยาวออกมาจากด้านหลังศีรษะ
กับดาบ กาแลคตรอนเบลด ที่แขนซ้าย
และการโจมตีด้วยลำแสงที่ยิงออกมาจากดวงตาและหน้าอก
ตอนที่ 16 "สถานที่ที่มิอาจลืม"
ตอนที่ 17 "ดาบศักดิ์สิทธิ์หวนคืน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรรวมร่าง ZEPPANDON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จั๊กเกลอร์ได้นำการ์ด เซ็ทต้อน กับ แพนด้อน มาอ่านด้วยดาร์คริงก์
เพื่อส่งถ่ายพลังงานของพวกมันเข้าไปในหางของมากะโอโรจิ
จนถือกำเนิดเป็น จอมมารอสูรรวมร่าง ตนนี้ขึ้นมา
จากนั้นมันก็ใช้ความสามารถที่ผสมผสานกันระหว่าง เซ็ทต้อน กับ แพนด้อน
เข้าบุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นท่าเคลื่อนที่ในพริบตา , ม่านพลังป้องกัน ( เซ็ทแพนด้อนชีลด์ )
หรือ กระสุนเพลิงโลกันตร์ ( กระสุนเพลิงพิฆาตเซ็ทแพนด้อน )
ตอนที่ 18 "Hardboiled Liver ( ใจที่ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด )"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ชาวดาวทมิฬ ALIEN SHAPLAY
ความสูง : 1.7 เมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวทมิฬผู้แปลงกายเป็นชายหนุ่มท่าทางคล่องแคล่วทะมัดทะแมง
ซึ่งทำอาชีพขายเครื่องประดับและอัญมณีอยู่ตามริมถนน
ได้มอบหินพาวเวอร์สโตนที่มีชื่อว่า "ยาเซลโทเนี่ยม" ให้แก่พวกสาวๆวัยรุ่น
แล้วดูดพลังงานชีวิตของพวกเธอมาไว้ที่หินพาวเวอร์สโตนก้อนหลัก
เพื่อนำพลังงานนั้นไปเพิ่มพลังให้ เบมล่าร์ แล้วบงการมันให้เข้าต่อสู้กับอุลตร้าแมนออร์บ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดอวกาศ BEMLAR ( ร่าง Power Up )
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 6 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดอวกาศที่ถูก มนุษย์ดาวชาเพลย์ ควบคุม
เพราะพลังงานที่ได้มาจาก "ยาเซลโทเนี่ยม" จึงทำให้มันมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
และมีเขาสองข้างงอกออกมาจากหัวซึ่งไม่เคยมีปรากฎในสายพันธุ์เดิมของมัน
นอกจากนี้มันยังสามารถยิง "ลำแสงความร้อนไฮเปอร์เพลล์" ออกมาจากปากได้อีกด้วย
ตอนที่ 19 "ปีศาจที่อยู่ในตัวเรา"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ปีศาจจอมอาฆาต RENKI ( อัศวินแดง )
ความสูง : 51 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : วิญญาณอาฆาตของแม่ทัพทหารม้าผู้สวมชุดเกราะสีแดงฉาน
ตอนที่ 7 "วันพรุ่งนี้ในม่านหมอก"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดกรดกำมะถัน HOE
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดกรดกำมะถันที่ปรากฎตัวขึ้นมาจากพลังงานด้านลบของมนุษย์
มันจะหลั่งน้ำตากรดกำมะถันออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง
และสามารถใช้พลังงานด้านลบในการแปรสภาพสารประกอบของกรดกำมะถัน
ให้กลายเป็นลำแสงกรดกำมะถันแล้วยิงออกมาจากปากและดวงตาได้
ตอนที่ 8 "มนุษย์เงือกในเมืองกรุง"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณ RAGON ( 2 แม่ลูก )
ความสูง : 2 เมตร
น้ำหนัก : 100 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ใต้สมุทรโบราณที่ปกติจะมีนิสัยสงบเสงี่ยมเรียบร้อยและชื่นชอบในเสียงเพลง
แต่พอมันโกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ มันก็จะสำแดงพลังระดับช้างสารออกมา
คาดกันว่าพวกมันเป็นสัตว์สายพันธุ์ที่วิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลาน
ซึ่งเคยปกครองโลกนี้เมื่อ 2 ร้อยล้านปีก่อน
ขณะที่พวกมันกำลังขึ้นฝั่งมาหาอาหาร
คุณเก็นเจ้าของร้านขายปลาก็ได้พาพวกมันไปหลบซ่อนตัว
เพื่อไม่ให้มีใครมาพบเห็นพวกมันเข้า
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึก GUBILA
ความยาว : 50 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดใต้ทะเลลึกที่สามารถใช้สว่านตรงปลายจมูกในการขุดเจาะดำดินได้
แถมยังมีครีบขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการแหวกว่ายอยู่ใต้ทะเลลึกด้วยความเร็วสูง
หรือถึงแม้ว่ามันจะอยู่บนบก แต่มันก็ยังคงเคลื่อนไหวได้อย่างแคล่วคล่องว่องไวอยู่ดี
มันจะใช้สว่านตรงปลายจมูกที่หมุนด้วยความเร็วสูง
ในการเจาะทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นรูพรุนไปเสียหมด
หลังจากที่มันกินปลาที่อยู่ในทะเลไปจนหมดแล้ว
มันจึงคิดจะมาบุกโกดังเก็บอาหารทะเลที่อยู่บนบกต่อ
ตอนที่ 9 "บทเพลงอันแสนเศร้าของตัวปลอม"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวทมิฬ ALIEN BABARU BABARYU
ความสูง : 2 ~ 56 เมตร
น้ำหนัก : 140 กิโลกรัม ~ 2 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวทมิฬผู้มีความสามารถในการแปลงกาย
และมี ใบมีดคัตเตอร์ที่แขนขวา กับ โซ่ลูกตุ้มที่แขนซ้าย เป็นอาวุธ
มนุษย์ดาวเมฟิราส นอสทร่า รู้สึกถูกใจในวิชาแปลงโฉมได้ดั่งใจนึกของมัน
จึงได้ออกคำสั่งให้มันปลอมตัวเป็นอุลตร้าแมนออร์บ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดจอมอาละวาดแห่งอวกาศ KELBEAM
ความสูง : 44 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 4 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดอวกาศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและอาวุธอันทรงพลัง
อยู่ตรงเขาขนาดใหญ่อันแหลมคมที่อยู่บนหัวกับหางติดลูกตุ้มปลายแหลมที่ยาวเฟื้อย
นอกจากนั้นยังมี "เอ็กซ์คลูซีฟสปิทนำวิถี"
กระสุนเพลิง 3 พันองศาที่ปล่อยออกมาจากปากของมันเป็นอาวุธที่ร้ายกาจอยู่อีกอย่างหนึ่ง
ตอนที่ 10 "จั๊กเกลอร์สิ้นชีพ !"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดผู้คุ้มกัน BLACKKING
ความสูง : 65 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่มีร่างกายอันแข็งแกร่งทนทาน
ถึงขนาดสามารถสะท้อนลำแสงอันทรงพลังให้กระเด็นออกไปได้
แถมยังมี ลำแสงที่พ่นออกมาจากปาก กับ ท่อนแขนอันทรงพลัง เป็นอาวุธที่ร้ายกาจ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ปีศาจมายาไร้สิ้นสูญ JUGGLUS JUGGLER
ความสูง : ไม่ปรากฎแน่ชัด
น้ำหนัก : ไม่ปรากฎแน่ชัด
ลักษณะพิเศษ : ศัตรูคู่อาฆาตของ ไก ผู้วางแผนที่จะใช้การ์ดสัตว์ประหลาด
ในการฟื้นคืนชีพ มากะโอโรจิ จ้าวแห่งจอมมารอสูร
มันมีอายุยืนยาวเหมือนกับ ไก และคอยเคลื่อนไหวอย่างลับๆ
อยู่ในเงามืดของประวัติศาสตร์มาโดยตลอด
มันมีความคิดแตกต่างจาก ไก ที่ "ไม่ต้องการให้มนุษย์เข้ามาพัวพันในการต่อสู้"
แต่สำหรับมันแล้วมนุษย์จะเป็นอย่างไรก็ช่าง
อาวุธคู่ใจของมันคือ "ดาบจิตพยาบาท" ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่จะตัดไม่ขาด
ตอนที่ 11 "ยุ่งล่ะสิ ! คุณแม่มาแล้ว !"
ตอนที่ 12 "พรจากราชันย์ทมิฬ"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จ้าวแห่งจอมมารอสูร MAGAOROCHI
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 8 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : จ้าวแห่งจอมมารอสูรที่ จั๊กเกลอร์ เป็นผู้คลายผนึกปลดปล่อยมันออกมา
มันได้บินจาก มอนสเตอร์กาแลคซี่ มายังโลก
และถูกผนึกสะกดเอาไว้จากการต่อสู้เมื่อครั้งอดีตกาล
แต่ทว่า,ไข่ของมันได้ถูกฝังเอาไว้ในส่วนลึกของดวงดาว
จากนั้นมันจะค่อยๆกัดกินดาวดวงนั้นแล้วเจริญเติบโตขึ้น
พอมันกลืนกินสิ่งมีชีวิตทั้งหมดเข้าไปจนหมดสิ้น
จนทำให้ดาวดวงนั้นกลายเป็นดาวมรณะแล้ว มันก็จะบินไปยังดาวดวงอื่น
อาวุธที่ร้ายกาจของมัน คือ พลังสายฟ้าฟาดที่ปล่อยออกมาจากปาก ( มากะอสุนีบาต )
ตอนที่ 13 "การชำระล้างจิตใจครั้งใหญ่"
ตอนที่ 14 "คุณธรรมอันคลุ้มคลั่ง"
ตอนที่ 15 "Never Say Never"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : CIVIL JUDGEMENTER GALACTRON
ความสูง : 61 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จักรกลผู้พิพากษาที่บินมายังโลกจากมิติอื่น
ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาจากชิ้นส่วนวัตถุปริศนาที่เหนือกว่ากฎเกณฑ์ทางกายภาพ
อาทิเช่น ระบบกันสะเทือนด้วยสปรืงที่มีลักษณะคล้ายเจล
นอกจากนี้มันยังมีท่าโจมตีอันทรงพลังอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น กาแลคตรอนชาฟท์ ที่ยืดยาวออกมาจากด้านหลังศีรษะ
กับดาบ กาแลคตรอนเบลด ที่แขนซ้าย
และการโจมตีด้วยลำแสงที่ยิงออกมาจากดวงตาและหน้าอก
ตอนที่ 16 "สถานที่ที่มิอาจลืม"
ตอนที่ 17 "ดาบศักดิ์สิทธิ์หวนคืน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : จอมมารอสูรรวมร่าง ZEPPANDON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : จั๊กเกลอร์ได้นำการ์ด เซ็ทต้อน กับ แพนด้อน มาอ่านด้วยดาร์คริงก์
เพื่อส่งถ่ายพลังงานของพวกมันเข้าไปในหางของมากะโอโรจิ
จนถือกำเนิดเป็น จอมมารอสูรรวมร่าง ตนนี้ขึ้นมา
จากนั้นมันก็ใช้ความสามารถที่ผสมผสานกันระหว่าง เซ็ทต้อน กับ แพนด้อน
เข้าบุกโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นท่าเคลื่อนที่ในพริบตา , ม่านพลังป้องกัน ( เซ็ทแพนด้อนชีลด์ )
หรือ กระสุนเพลิงโลกันตร์ ( กระสุนเพลิงพิฆาตเซ็ทแพนด้อน )
ตอนที่ 18 "Hardboiled Liver ( ใจที่ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด )"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ชาวดาวทมิฬ ALIEN SHAPLAY
ความสูง : 1.7 เมตร
น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวทมิฬผู้แปลงกายเป็นชายหนุ่มท่าทางคล่องแคล่วทะมัดทะแมง
ซึ่งทำอาชีพขายเครื่องประดับและอัญมณีอยู่ตามริมถนน
ได้มอบหินพาวเวอร์สโตนที่มีชื่อว่า "ยาเซลโทเนี่ยม" ให้แก่พวกสาวๆวัยรุ่น
แล้วดูดพลังงานชีวิตของพวกเธอมาไว้ที่หินพาวเวอร์สโตนก้อนหลัก
เพื่อนำพลังงานนั้นไปเพิ่มพลังให้ เบมล่าร์ แล้วบงการมันให้เข้าต่อสู้กับอุลตร้าแมนออร์บ
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สัตว์ประหลาดอวกาศ BEMLAR ( ร่าง Power Up )
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 2 หมื่น 6 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดอวกาศที่ถูก มนุษย์ดาวชาเพลย์ ควบคุม
เพราะพลังงานที่ได้มาจาก "ยาเซลโทเนี่ยม" จึงทำให้มันมีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
และมีเขาสองข้างงอกออกมาจากหัวซึ่งไม่เคยมีปรากฎในสายพันธุ์เดิมของมัน
นอกจากนี้มันยังสามารถยิง "ลำแสงความร้อนไฮเปอร์เพลล์" ออกมาจากปากได้อีกด้วย
ตอนที่ 19 "ปีศาจที่อยู่ในตัวเรา"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ปีศาจจอมอาฆาต RENKI ( อัศวินแดง )
ความสูง : 51 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : วิญญาณอาฆาตของแม่ทัพทหารม้าผู้สวมชุดเกราะสีแดงฉาน
ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่โจษจันกันในยุคเซ็นโงคุ
โดยผู้คนจะต่างพากันหวาดกลัว เมื่อได้ยินชื่ออีกฉายาหนึ่งของเขาว่า "อัศวินแดง"
เขาได้ตกหลุมรักกับเจ้าหญิงองค์หนึ่ง แต่สุดท้ายทั้งคู่กลับถูกแยกให้พลัดพรากจากกัน
แถมเขายังต้องมาสูญเสียม้าศึกคู่ใจไปอีก
โดยผู้คนจะต่างพากันหวาดกลัว เมื่อได้ยินชื่ออีกฉายาหนึ่งของเขาว่า "อัศวินแดง"
เขาได้ตกหลุมรักกับเจ้าหญิงองค์หนึ่ง แต่สุดท้ายทั้งคู่กลับถูกแยกให้พลัดพรากจากกัน
แถมเขายังต้องมาสูญเสียม้าศึกคู่ใจไปอีก
จนต้องมาจบชีวิตลงด้วยการเดินเท้าเปล่าโดยที่ไม่เหลืออะไร
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอิจฉาเหล่าคู่รักที่มีความสุข
จนกลายเป็นปีศาจจอมอาฆาตที่จะปรากฎตัวออกมาในพิธีแต่งงานเพื่อทำร้ายเจ้าสาว
เขาจะพ่นไอปีศาจจากปากออกมาห่อหุ้มดาบ
เพื่อใช้ท่า "ไอปีศาจแดงหวนกลับ" คอยไล่ต้อน อุลตร้าแมนออร์บ ให้จนมุม
ตอนที่ 20 "ไกปืนแห่งการล้างแค้น"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวภาพมายา ALIEN METRON TALDE
ความสูง : 2 ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 120 กิโลกรัม ~ 1 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวภาพมายาผู้วางแผนหมายจะทำลายความเชื่อมั่นระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง
โดยใช้บุหรี่หลอนประสาทเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้คนเกิดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอิจฉาเหล่าคู่รักที่มีความสุข
จนกลายเป็นปีศาจจอมอาฆาตที่จะปรากฎตัวออกมาในพิธีแต่งงานเพื่อทำร้ายเจ้าสาว
เขาจะพ่นไอปีศาจจากปากออกมาห่อหุ้มดาบ
เพื่อใช้ท่า "ไอปีศาจแดงหวนกลับ" คอยไล่ต้อน อุลตร้าแมนออร์บ ให้จนมุม
ตอนที่ 20 "ไกปืนแห่งการล้างแค้น"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มนุษย์ต่างดาวภาพมายา ALIEN METRON TALDE
ความสูง : 2 ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 120 กิโลกรัม ~ 1 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวภาพมายาผู้วางแผนหมายจะทำลายความเชื่อมั่นระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง
โดยใช้บุหรี่หลอนประสาทเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้คนเกิดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ตามวิธีที่มันถนัด
แต่เนื่องจากประชากรที่สูบบุหรี่ในโลกยุคปัจจุบันค่อยๆลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
แผนการของมันจึงไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดหวังเอาไว้
ตอนที่ 21 "สาวน้อยริบบิ้นสีน้ำเงิน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มังกรอวกาศ HYPER Z-TON DEATHSCYTHE ( RESERVER )
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ร่างคืนชีพของ ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเดธไซธ์ ที่ถูกควบคุมโดยมายะ
สาวน้อยซึ่งเป็นร่างจำลองที่ เมอร์ด็อก เตรียมเอาไว้ใช้สำรองในยามฉุกเฉิน
ดูจากรูปร่างหน้าตาภายนอกของมัน
แต่เนื่องจากประชากรที่สูบบุหรี่ในโลกยุคปัจจุบันค่อยๆลดน้อยลงไปเรื่อยๆ
แผนการของมันจึงไม่ประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดหวังเอาไว้
ตอนที่ 21 "สาวน้อยริบบิ้นสีน้ำเงิน"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : มังกรอวกาศ HYPER Z-TON DEATHSCYTHE ( RESERVER )
ความสูง : 70 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ร่างคืนชีพของ ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเดธไซธ์ ที่ถูกควบคุมโดยมายะ
สาวน้อยซึ่งเป็นร่างจำลองที่ เมอร์ด็อก เตรียมเอาไว้ใช้สำรองในยามฉุกเฉิน
ดูจากรูปร่างหน้าตาภายนอกของมัน
จะไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเดธไซธ์ ตัวก่อน
แต่ความสามารถในการต่อสู้ของมันจะถูกพัฒนามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
มันได้ปรากฎตัวบนท้องฟ้าเหนือใจกลางเมืองเป็นระยะๆพร้อมกับมายะ
ตั้งแต่เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน เพื่อทำให้ผู้คนเกิดความสับสนอลหม่าน
แต่หลังจากที่ ไก ล่วงรู้ถึงจุดมุ่งหมายของมัน
เมอร์ด็อก จึงได้สั่งให้มันลงมาบนพื้นดินเพื่อให้มันสังหารเขาซะ
หลังจากนั้นมันก็ได้ประมือกับ อุลตร้าแมนออร์บออริจิน
แล้วใช้ท่า ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเทเลพอร์ต กับ กระสุนเพลิงทมิฬ รุกไล่ต้อนเขาอย่างหนัก
แต่พอ มายะ สามารถทำลายกำไลข้อมือ
แต่ความสามารถในการต่อสู้ของมันจะถูกพัฒนามากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
มันได้ปรากฎตัวบนท้องฟ้าเหนือใจกลางเมืองเป็นระยะๆพร้อมกับมายะ
ตั้งแต่เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน เพื่อทำให้ผู้คนเกิดความสับสนอลหม่าน
แต่หลังจากที่ ไก ล่วงรู้ถึงจุดมุ่งหมายของมัน
เมอร์ด็อก จึงได้สั่งให้มันลงมาบนพื้นดินเพื่อให้มันสังหารเขาซะ
หลังจากนั้นมันก็ได้ประมือกับ อุลตร้าแมนออร์บออริจิน
แล้วใช้ท่า ไฮเปอร์เซ็ทต้อนเทเลพอร์ต กับ กระสุนเพลิงทมิฬ รุกไล่ต้อนเขาอย่างหนัก
แต่พอ มายะ สามารถทำลายกำไลข้อมือ
ที่มีจิตวิญญาณของ เมอร์ด็อก สิงสถิตย์อยู่ได้เป็นผลสำเร็จ
มันก็อ่อนระโหยโรยแรงลง แล้วถูก ออร์บคาลิเบอร์ ฟันจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
ก่อนที่จะถูกปิดฉากลงด้วย ลำแสงแซ็ทเซี่ยม ของ อุลตร้าแมนออร์บ ธันเดอร์เบรสเตอร์
จนแหลกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
ตอนที่ 22 "คาเฟ่ที่ไม่มีบนแผนที่"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ยานบินมีชีวิต NOVA
ความสูง : 10 เซนติเมตร ~ 57 เมตร
น้ำหนัก : 20 กรัม ~ 1 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ยานบินมีชีวิตที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตุ๊กตาไล่ฝนสีแดง
มันจะใช้หนวดที่แขนขวากับเคียวที่แขนซ้ายเข้าจู่โจมศัตรู
นอกจากนี้มันยังสามารถปล่อยก๊าซสีแดงและลูกไฟออกมาจากปากได้อีกด้วย
มันเป็นสัญลักษณ์มาสค็อตประจำร้าน "คาเฟ่ ★ แบล็คสตาร์"
มันก็อ่อนระโหยโรยแรงลง แล้วถูก ออร์บคาลิเบอร์ ฟันจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
ก่อนที่จะถูกปิดฉากลงด้วย ลำแสงแซ็ทเซี่ยม ของ อุลตร้าแมนออร์บ ธันเดอร์เบรสเตอร์
จนแหลกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ
มายะ ( ผู้รับบท : โอคุดะ คายาโกะ )
ตอนที่ 22 "คาเฟ่ที่ไม่มีบนแผนที่"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : ยานบินมีชีวิต NOVA
ความสูง : 10 เซนติเมตร ~ 57 เมตร
น้ำหนัก : 20 กรัม ~ 1 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : ยานบินมีชีวิตที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตุ๊กตาไล่ฝนสีแดง
มันจะใช้หนวดที่แขนขวากับเคียวที่แขนซ้ายเข้าจู่โจมศัตรู
นอกจากนี้มันยังสามารถปล่อยก๊าซสีแดงและลูกไฟออกมาจากปากได้อีกด้วย
มันเป็นสัญลักษณ์มาสค็อตประจำร้าน "คาเฟ่ ★ แบล็คสตาร์"
ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ที่ไม่มีอยู่ในแผนที่
แต่จู่ๆมันก็กลายร่างยักษ์ออกมาเพื่อกระตุ้นให้ มาสเตอร์แบล็ค เกิดความรู้สึกฮึกเหิม
แล้วเข้าไปประมือท้ารบกับอุลตร้าแมนออร์บ
ตอนที่ 23 "ดาบแห่งความมืด"
ตอนที่ 24 "สุดยอดจ้าวแห่งจอมมารอสูรตอบโต้"
ตอนที่ 25 "ดวงตะวันสู่การออกพเนจร"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สุดยอดจ้าวแห่งจอมมารอสูร MAGATANOOROCHI
ความสูง : 77 เมตร
น้ำหนัก : 8 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สุดยอดจ้าวแห่งจอมมารอสูรที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อชะตากรรมของดาวโลก
มากะโอโรจิที่เคยถูก อุลตร้าแมนออร์บ กำจัดลงไปก่อนหน้านี้
แท้ที่จริงแล้วนั่นเป็นเพียงแค่ร่างตัวอ่อนเท่านั้น
แต่ตัวจริงของมันได้แฝงตัวอยู่ใต้ผืนดินแล้วใช้โลกใบนี้เป็นรังไหมดักแด้
เพื่อรอการพัฒนากลายเป็นร่างขั้นสมบูรณ์ ซึ่งนั่นก็คือ "มากาตะโนะโอโรจิ" นั่นเอง
ว่ากันว่ายามใดที่ มากาตะโนะโอโรจิ ฟื้นขึ้นมาก็จะมีเหตุการณ์ประหลาดต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
ผลงานภาคนอกตำนานเรื่องแรกของ "อุลตร้าแมนออร์บ" ซึ่งกล่าวถึงจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมดก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องในภาคทีวีซีรีส์ โดยจะเริ่มเรื่องตั้งแต่สมัยที่ ไก กับ จั๊กเกลอร์ ยังคงร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันก่อนที่จะมาถึงจุดแตกหัก ซีรีส์ชุดนี้จะถูกแพร่ภาพใน Amazon Prime VDO ทุกวันจันทร์ นับตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2016 ไปจนถึงวันที่ 13 มี.ค. 2017 รวมทั้งสิ้น 12 ตอน ด้วยกัน
ULTRAMAN ORB ORIGIN THE FIRST
ความสูง : 10 ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน ~ 5 หมื่นตัน
สถานที่กำเนิด : ยอดผาแห่งนักรบบนดาว O-50
ลักษณะพิเศษ : ร่างแรกเริ่มเดิมทีของ อุลตร้าแมนออร์บ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ลวดลายสีแดงตัดกับลำตัวสีเงิน
ท่าไม้ตายประจำตัวของเขา คือ "ลำแสงออริเจี้ยม"
ไก จะใช้ดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ในการแปลงสู่ร่างนี้
ULTRAMAN DYNA
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อาสึกะ ชิน เจ้าหน้าที่แห่งหน่วย "SUPER GUTS"
ทีมสืบสวนพิเศษของ "TPC" สมาพันธ์สันติภาพโลก
ได้รวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับ "แสง" ที่พบบนดาวอังคาร
จนสามารถที่จะแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนตนนี้ได้
ท่าไม้ตายประจำตัวของเขาคือ "ลำแสงโซลเจนท์"
ULTRAMAN COSMOS
ความสูง : 47 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ยักษ์แห่งแสงผู้มีทั้งความอ่อนโยนและความแข็งแกร่งอยู่ในตัว
เขาคือผู้กล้าแห่งความรักและเมตตาที่ ฮารุโนะ มุซาชิ ชายหนุ่มผู้มีใจเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
และแสวงหาหนทางที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ประหลาดเป็นผู้แปลงร่าง
"ลูน่าโหมด" ผู้กล้าสีน้ำเงินที่เปรียบเสมือนกับตัวแทนแห่งความอ่อนโยน
คือร่างพื้นฐานของ อุลตร้าแมนคอสมอส
ซึ่งมีท่า "ฟูลมูนเลคท์" ลำแสงที่ช่วยทำให้จิตใจของพวกสัตว์ประหลาดรู้สึกสงบลงเป็นอาวุธ
ULTRAMAN GAIA
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์แห่งแสงสีแดงที่ถือกำเนิดจากผืนปฐพี
ทาคายามะ กามุ เจ้าหน้าที่ "XIG" แห่งทีมป้องกัน
ของสมาพันธ์พิทักษ์โลกต่อต้านต้นตอแห่งหายนะ "G.U.A.R.D."
คือผู้ที่แปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนตนนี้ด้วยแสงที่ได้รับมาจากพื้นดินบนโลก
โดยมี "โฟตอนเอดจ์" เป็นท่าไม้ตายทีเด็ด
ULTRAMAN AGUL
ความสูง : 52 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 6 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ยักษ์แห่งแสงสีน้ำเงินที่ถือกำเนิดจากท้องทะเล
ฟูจิมิยะ ฮิโรยะ นักวิทยาศาสตร์ซึ่งเคยเป็นอดีตสมาชิกอัลเคมี่สตาร์
คือผู้ที่แปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนตนนี้ โดยมี "อะกูลสตรีม" เป็นท่าไม้ตายทีเด็ด
แม้ว่าช่วงแรกๆเขาจะทำตัวเป็นศัตรูกับ ไกอา
แต่จู่ๆมันก็กลายร่างยักษ์ออกมาเพื่อกระตุ้นให้ มาสเตอร์แบล็ค เกิดความรู้สึกฮึกเหิม
แล้วเข้าไปประมือท้ารบกับอุลตร้าแมนออร์บ
ตอนที่ 23 "ดาบแห่งความมืด"
ตอนที่ 24 "สุดยอดจ้าวแห่งจอมมารอสูรตอบโต้"
ตอนที่ 25 "ดวงตะวันสู่การออกพเนจร"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎ : สุดยอดจ้าวแห่งจอมมารอสูร MAGATANOOROCHI
ความสูง : 77 เมตร
น้ำหนัก : 8 หมื่น 8 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สุดยอดจ้าวแห่งจอมมารอสูรที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อชะตากรรมของดาวโลก
มากะโอโรจิที่เคยถูก อุลตร้าแมนออร์บ กำจัดลงไปก่อนหน้านี้
แท้ที่จริงแล้วนั่นเป็นเพียงแค่ร่างตัวอ่อนเท่านั้น
แต่ตัวจริงของมันได้แฝงตัวอยู่ใต้ผืนดินแล้วใช้โลกใบนี้เป็นรังไหมดักแด้
เพื่อรอการพัฒนากลายเป็นร่างขั้นสมบูรณ์ ซึ่งนั่นก็คือ "มากาตะโนะโอโรจิ" นั่นเอง
ว่ากันว่ายามใดที่ มากาตะโนะโอโรจิ ฟื้นขึ้นมาก็จะมีเหตุการณ์ประหลาดต่างๆเกิดขึ้นมากมาย
**************************************************
**************************************************
อุลตร้าแมนออร์บ เดอะออริจิน ซาก้า
ผลงานภาคนอกตำนานเรื่องแรกของ "อุลตร้าแมนออร์บ" ซึ่งกล่าวถึงจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมดก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อเรื่องในภาคทีวีซีรีส์ โดยจะเริ่มเรื่องตั้งแต่สมัยที่ ไก กับ จั๊กเกลอร์ ยังคงร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันก่อนที่จะมาถึงจุดแตกหัก ซีรีส์ชุดนี้จะถูกแพร่ภาพใน Amazon Prime VDO ทุกวันจันทร์ นับตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2016 ไปจนถึงวันที่ 13 มี.ค. 2017 รวมทั้งสิ้น 12 ตอน ด้วยกัน
ULTRAMAN ORB ORIGIN THE FIRST
ความสูง : 10 ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 1 หมื่นตัน ~ 5 หมื่นตัน
สถานที่กำเนิด : ยอดผาแห่งนักรบบนดาว O-50
ลักษณะพิเศษ : ร่างแรกเริ่มเดิมทีของ อุลตร้าแมนออร์บ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ลวดลายสีแดงตัดกับลำตัวสีเงิน
ท่าไม้ตายประจำตัวของเขา คือ "ลำแสงออริเจี้ยม"
ไก จะใช้ดาบ ออร์บคาลิเบอร์ ในการแปลงสู่ร่างนี้
ULTRAMAN DYNA
ความสูง : 55 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อาสึกะ ชิน เจ้าหน้าที่แห่งหน่วย "SUPER GUTS"
ทีมสืบสวนพิเศษของ "TPC" สมาพันธ์สันติภาพโลก
ได้รวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับ "แสง" ที่พบบนดาวอังคาร
จนสามารถที่จะแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนตนนี้ได้
ท่าไม้ตายประจำตัวของเขาคือ "ลำแสงโซลเจนท์"
ULTRAMAN COSMOS
ความสูง : 47 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ยักษ์แห่งแสงผู้มีทั้งความอ่อนโยนและความแข็งแกร่งอยู่ในตัว
เขาคือผู้กล้าแห่งความรักและเมตตาที่ ฮารุโนะ มุซาชิ ชายหนุ่มผู้มีใจเมตตาต่อสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
และแสวงหาหนทางที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ประหลาดเป็นผู้แปลงร่าง
"ลูน่าโหมด" ผู้กล้าสีน้ำเงินที่เปรียบเสมือนกับตัวแทนแห่งความอ่อนโยน
คือร่างพื้นฐานของ อุลตร้าแมนคอสมอส
ซึ่งมีท่า "ฟูลมูนเลคท์" ลำแสงที่ช่วยทำให้จิตใจของพวกสัตว์ประหลาดรู้สึกสงบลงเป็นอาวุธ
ULTRAMAN GAIA
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 2 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์แห่งแสงสีแดงที่ถือกำเนิดจากผืนปฐพี
ทาคายามะ กามุ เจ้าหน้าที่ "XIG" แห่งทีมป้องกัน
ของสมาพันธ์พิทักษ์โลกต่อต้านต้นตอแห่งหายนะ "G.U.A.R.D."
คือผู้ที่แปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนตนนี้ด้วยแสงที่ได้รับมาจากพื้นดินบนโลก
โดยมี "โฟตอนเอดจ์" เป็นท่าไม้ตายทีเด็ด
ULTRAMAN AGUL
ความสูง : 52 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 6 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ยักษ์แห่งแสงสีน้ำเงินที่ถือกำเนิดจากท้องทะเล
ฟูจิมิยะ ฮิโรยะ นักวิทยาศาสตร์ซึ่งเคยเป็นอดีตสมาชิกอัลเคมี่สตาร์
คือผู้ที่แปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนตนนี้ โดยมี "อะกูลสตรีม" เป็นท่าไม้ตายทีเด็ด
แม้ว่าช่วงแรกๆเขาจะทำตัวเป็นศัตรูกับ ไกอา
แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้
ตัวละครหลัก
ไก : เขาคือผู้ที่ถูกเลือกจาก อุลตร้าแมนออร์บ และได้รับการฝากฝังดาบศักดิ์สิทธิ์ ออร์บคาลิเบอร์ เอาไว้
บน "ยอดผาแห่งนักรบ" ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนดาวเคราะห์ 0-50 ( โอฟิฟตี้ )
ซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของกาแลคซี่อันไกลโพ้น
แล้วกลายเป็นนักรบหนุ่มแห่งแสงที่อุทิศตนในการต่อสู้กับ ไซคิ ผู้ควบคุมฝูงปีศาจอวกาศ เบเซลบ์
และเฝ้าแสวงหาอุดมคติที่ว่า "จะไม่ทำร้ายใครและไม่ทำให้ใครต้องเศร้าโศกเสียใจ"
( ผู้รับบท : อิชิกุโระ ฮิเดโอะ )
จากลาส จั๊กเกลอร์ : นักรบยอดฝีมือผู้ชำนาญการใช้วิชาดาบสายจะชิน ( จิตพยาบาท )
เขาได้เดินทางไปถึง "ยอดผาแห่งนักรบ" พร้อมกับไก
แต่ทว่า ไก กลับเป็นผู้ที่ถูก อุลตร้าแมนออร์บ เลือก
นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองที่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากนักรบแห่งแสง
และรู้สึกหงุดหงิดกับ ไก ที่เอาแต่พร่ำพูดถึงอุดมคติอันสวยหรูของเขา
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามที่จะทำภารกิจในการเป็นผู้ช่วย ไก ให้บรรลุเป้าหมาย
( ผู้รับบท : อาโอยางิ ทาคายะ )
อามาเตะ : ราชินีแห่งดาวประชารัฐ คาน่อน ผู้สืบสายเลือดพิเศษที่มีเพียงสตรีในเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
ซึ่งสายเลือดที่ว่านี้มีพลังอำนาจที่จะกลายเป็น "อิคุซากามิ ( เทพสงคราม )" แอบแฝงอยู่
หลังจาก ไซคิ ได้นำกองทัพปีศาจอวกาศ เบเซลบ์ มาขู่ให้ราชอาณาจักรส่งตัวราชินีออกมา
แม่ทัพ ไรโก จึงลงความเห็นให้ราชอาณาจักรเป็นฝ่ายเปิดฉากบุกโจมตีก่อน
แต่ ราชินีอามาเตะ ไม่ต้องการจะให้เกิดการรบราฆ่าฟันกัน
จึงมีราชโองการให้ ชินระ หัวหน้าองครักษ์เดินทางไปเจรจากับ ไซคิ
( ผู้รับบท : ฟุคุดะ ซาคิ )
อิคุซากามิ : มนุษย์ยักษ์ที่มีแต่ผู้สืบสายเลือดราชวงศ์จากราชินีแห่งดาวประชารัฐคาน่อนเท่านั้น
ตัวละครหลัก
ไก : เขาคือผู้ที่ถูกเลือกจาก อุลตร้าแมนออร์บ และได้รับการฝากฝังดาบศักดิ์สิทธิ์ ออร์บคาลิเบอร์ เอาไว้
บน "ยอดผาแห่งนักรบ" ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนดาวเคราะห์ 0-50 ( โอฟิฟตี้ )
ซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของกาแลคซี่อันไกลโพ้น
แล้วกลายเป็นนักรบหนุ่มแห่งแสงที่อุทิศตนในการต่อสู้กับ ไซคิ ผู้ควบคุมฝูงปีศาจอวกาศ เบเซลบ์
และเฝ้าแสวงหาอุดมคติที่ว่า "จะไม่ทำร้ายใครและไม่ทำให้ใครต้องเศร้าโศกเสียใจ"
( ผู้รับบท : อิชิกุโระ ฮิเดโอะ )
จากลาส จั๊กเกลอร์ : นักรบยอดฝีมือผู้ชำนาญการใช้วิชาดาบสายจะชิน ( จิตพยาบาท )
เขาได้เดินทางไปถึง "ยอดผาแห่งนักรบ" พร้อมกับไก
แต่ทว่า ไก กลับเป็นผู้ที่ถูก อุลตร้าแมนออร์บ เลือก
นั่นจึงเป็นเหตุที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองที่ไม่ได้รับการคัดเลือกจากนักรบแห่งแสง
และรู้สึกหงุดหงิดกับ ไก ที่เอาแต่พร่ำพูดถึงอุดมคติอันสวยหรูของเขา
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามที่จะทำภารกิจในการเป็นผู้ช่วย ไก ให้บรรลุเป้าหมาย
( ผู้รับบท : อาโอยางิ ทาคายะ )
อามาเตะ : ราชินีแห่งดาวประชารัฐ คาน่อน ผู้สืบสายเลือดพิเศษที่มีเพียงสตรีในเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
ซึ่งสายเลือดที่ว่านี้มีพลังอำนาจที่จะกลายเป็น "อิคุซากามิ ( เทพสงคราม )" แอบแฝงอยู่
หลังจาก ไซคิ ได้นำกองทัพปีศาจอวกาศ เบเซลบ์ มาขู่ให้ราชอาณาจักรส่งตัวราชินีออกมา
แม่ทัพ ไรโก จึงลงความเห็นให้ราชอาณาจักรเป็นฝ่ายเปิดฉากบุกโจมตีก่อน
แต่ ราชินีอามาเตะ ไม่ต้องการจะให้เกิดการรบราฆ่าฟันกัน
จึงมีราชโองการให้ ชินระ หัวหน้าองครักษ์เดินทางไปเจรจากับ ไซคิ
( ผู้รับบท : ฟุคุดะ ซาคิ )
อิคุซากามิ : มนุษย์ยักษ์ที่มีแต่ผู้สืบสายเลือดราชวงศ์จากราชินีแห่งดาวประชารัฐคาน่อนเท่านั้น
จึงจะสามารถแปลงร่างได้
ราชินีองค์ก่อนซึ่งเป็นพระมารดาของ อามาเตะ ได้เปลี่ยนเป็นร่างนี้
เพื่อเข้าต่อสู้กับ การ์กอร์ก้อน ที่มาบุกจู่โจมดาวประชารัฐคาน่อนจนต้องจบชีวิตลงไปพร้อมกับมัน
ส่วน อามาเตะ เองก็ตัดสินใจที่จะแปลงเป็นร่างนี้เพื่อหมายจะเกลี้ยกล่อม
ไซคิ กับ ควีนเบเซลบ์ ที่เริ่มเปิดฉากระดมพลบุกถล่มดาวประชารัฐคาน่อน
และพยายามจะปกป้องต้นไม้แห่งชีวิตจากการโจมตีของยอดอสูรคุกุตสึ
ตอนแรก ควีนเบเซลบ์ ก็ทำทีว่าจะยอมเจรจาด้วยอยู่พักนึง
เพื่ออาศัยช่องโหว่นั้นฉีดพิษ "คุกุตสึ" เข้าไปในตัวเธอจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง
แล้วหันไปต่อสู้กับ ออร์บ , ไดน่า , คอสมอส แทน
แต่ด้วยผลของเมล็ดจากต้นไม้แห่งชีวิตที่ จั๊กเกลอร์ ไปเก็บมาให้ ออร์บ
จึงสามารถถอนพิษ "คุกุตสึ" ให้เธอได้สำเร็จ
ชินระ : หัวหน้าองครักษ์แห่งดาวประชารัฐ คาน่อน ผู้ถวายความจงรักภักดีต่อองค์ราชินีอามาเตะ
และคอยเฝ้าปกป้องคุ้มครองเธอเสมือนดั่งพระบิดา และเป็นที่พึ่งให้กับเธอดุจดั่งพระเชษฐา
เขาได้รับพระราชโองการจาก ราชินีอามาเตะ ให้เดินทางไปยัง ดาวไซน์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ ไซคิ
และได้รับเครื่องลางอันเป็นมรดกตกทอดของราชวงศ์จากรุ่นสู่รุ่นมาก่อนออกเดินทาง
โดยมี ริกกะ กับ มิคอตโตะ เป็นลูกสมุนองครักษ์คู่ใจ
( ผู้รับบท : มาเอคาวะ ยาสึยูกิ )
ไรโก : แม่ทัพแห่งกองกำลังป้องกันที่คอยปกป้องคุ้มครองดาวประชารัฐ คาน่อน
เขาคือผู้ที่ยืนกรานเสียงแข็งให้ราชอาณาจักรเป็นฝ่ายชิงลงมือโจมตีก่อน
ก่อนที่ฝูงปีศาจอวกาศ เบเซลบ์ ที่ ไซคิ เป็นคนบงการจะเดินทางมาบุกโจมตี
เพราะเขาเชื่อว่า ราชินีอามาเตะ ผู้มีพลังในการอวตารร่างเป็น "อิคุซากามิ ( เทพสงคราม )"
คือ "อาวุธสุดท้าย" ของดาวคาน่อน
( ผู้รับบท : เอโนคิ ทาคาอากิ )
มิคอตโตะ : ทหารองครักษ์ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ที่เกิดไปหลงไหลในตัวของ จั๊กเกลอร์ ผู้มีเพลงดาบสายจะชินริว
และเรียกเขาเป็น "อาจารย์" ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้อนุญาต
หลังจากที่เธอได้ใกล้ชิดพูดคุยกับเขาและผ่านศึกด้วยกันมาสักระยะหนึ่ง
เขาจึงยอมเปิดเผยความรู้สึกในใจของตนออกมา และให้ความไว้วางใจในตัวเธอไม่น้อย
( ผู้รับบท : อายาเนะ )
ริกกะ : หนึ่งในทหารองครักษ์เช่นเดียวกับมิคอตโตะ
เธอได้ให้ความเคารพนับถือในตัว หัวหน้าชินระ เป็นอย่างมาก
เพื่อเขาแล้วต่อให้ต้องเผชิญกับภยันอันตรายมากมายสักเพียงใด เธอก็ไม่เคยหวั่น
( ผู้รับบท : ชิบุยะ อาสึกะ )
ไซคิ : นักวิทยาศาสตร์ชาวดาวเรฟผู้มีมันสมองอันปราดเปรื่อง
เขาสามารถสื่อสารทางจิตกับ ควีนเบเซลบ์ ที่เป็นหัวหน้าผู้นำกองทัพปีศาจอวกาศ เบเซลบ์ ได้
จึงสามารถที่จะควบคุมฝูง เบเซลบ์ ได้
เขากำลังวางแผนที่จะใช้ คุกุตสึ พิษของเบเซลบ์ ในการช่วงชิงเอาความนึกคิดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลมา
เพื่อสร้างจักรวาลอันแสนสงบสุขที่ไม่มีการก่อสงคราม
ปกติเขาจะมี AI ( ปัญญาประดิษฐ์ ) ผู้ช่วยสนับสนุน
ที่มีรูปร่างกลมๆและมีดวงตาเป็นรูปดาวคอยอยู่ข้างกายเสมอ
( ผู้รับบท : อิสุมิ โมโตยะ )
อาสึกะ ชิน : หลังจากที่เขาต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากการคุกคามของ สเฟียร์ สิ่งมีชีวิตปริศนา
ในฐานะของ อุลตร้าแมนไดน่า ได้สำเร็จ เขาจึงออกเดินทางข้ามมิติเวลาไปเรื่อยๆ
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่า ไซคิ กำลังจะนำพาความโกลาหลมาสู่จักรวาล
เขาจึงได้ไปขอความร่วมมือจาก ฮารุโนะ มุซาชิ
และคอยสนับสนุน อุลตร้าแมนออร์บ ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า
( ผู้รับบท : ซึรุโนะ ทาเคชิ )
ฮารุโนะ มุซาชิ : หลังจากที่เขาต่อสู้เพื่อปกป้องโลกและเหล่าสัตว์ประหลาด
ราชินีองค์ก่อนซึ่งเป็นพระมารดาของ อามาเตะ ได้เปลี่ยนเป็นร่างนี้
เพื่อเข้าต่อสู้กับ การ์กอร์ก้อน ที่มาบุกจู่โจมดาวประชารัฐคาน่อนจนต้องจบชีวิตลงไปพร้อมกับมัน
ส่วน อามาเตะ เองก็ตัดสินใจที่จะแปลงเป็นร่างนี้เพื่อหมายจะเกลี้ยกล่อม
ไซคิ กับ ควีนเบเซลบ์ ที่เริ่มเปิดฉากระดมพลบุกถล่มดาวประชารัฐคาน่อน
และพยายามจะปกป้องต้นไม้แห่งชีวิตจากการโจมตีของยอดอสูรคุกุตสึ
ตอนแรก ควีนเบเซลบ์ ก็ทำทีว่าจะยอมเจรจาด้วยอยู่พักนึง
เพื่ออาศัยช่องโหว่นั้นฉีดพิษ "คุกุตสึ" เข้าไปในตัวเธอจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง
แล้วหันไปต่อสู้กับ ออร์บ , ไดน่า , คอสมอส แทน
แต่ด้วยผลของเมล็ดจากต้นไม้แห่งชีวิตที่ จั๊กเกลอร์ ไปเก็บมาให้ ออร์บ
จึงสามารถถอนพิษ "คุกุตสึ" ให้เธอได้สำเร็จ
ชินระ : หัวหน้าองครักษ์แห่งดาวประชารัฐ คาน่อน ผู้ถวายความจงรักภักดีต่อองค์ราชินีอามาเตะ
และคอยเฝ้าปกป้องคุ้มครองเธอเสมือนดั่งพระบิดา และเป็นที่พึ่งให้กับเธอดุจดั่งพระเชษฐา
เขาได้รับพระราชโองการจาก ราชินีอามาเตะ ให้เดินทางไปยัง ดาวไซน์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ ไซคิ
และได้รับเครื่องลางอันเป็นมรดกตกทอดของราชวงศ์จากรุ่นสู่รุ่นมาก่อนออกเดินทาง
โดยมี ริกกะ กับ มิคอตโตะ เป็นลูกสมุนองครักษ์คู่ใจ
( ผู้รับบท : มาเอคาวะ ยาสึยูกิ )
ไรโก : แม่ทัพแห่งกองกำลังป้องกันที่คอยปกป้องคุ้มครองดาวประชารัฐ คาน่อน
เขาคือผู้ที่ยืนกรานเสียงแข็งให้ราชอาณาจักรเป็นฝ่ายชิงลงมือโจมตีก่อน
ก่อนที่ฝูงปีศาจอวกาศ เบเซลบ์ ที่ ไซคิ เป็นคนบงการจะเดินทางมาบุกโจมตี
เพราะเขาเชื่อว่า ราชินีอามาเตะ ผู้มีพลังในการอวตารร่างเป็น "อิคุซากามิ ( เทพสงคราม )"
คือ "อาวุธสุดท้าย" ของดาวคาน่อน
( ผู้รับบท : เอโนคิ ทาคาอากิ )
มิคอตโตะ : ทหารองครักษ์ผู้พิทักษ์ราชวงศ์ที่เกิดไปหลงไหลในตัวของ จั๊กเกลอร์ ผู้มีเพลงดาบสายจะชินริว
และเรียกเขาเป็น "อาจารย์" ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้อนุญาต
หลังจากที่เธอได้ใกล้ชิดพูดคุยกับเขาและผ่านศึกด้วยกันมาสักระยะหนึ่ง
เขาจึงยอมเปิดเผยความรู้สึกในใจของตนออกมา และให้ความไว้วางใจในตัวเธอไม่น้อย
( ผู้รับบท : อายาเนะ )
ริกกะ : หนึ่งในทหารองครักษ์เช่นเดียวกับมิคอตโตะ
เธอได้ให้ความเคารพนับถือในตัว หัวหน้าชินระ เป็นอย่างมาก
เพื่อเขาแล้วต่อให้ต้องเผชิญกับภยันอันตรายมากมายสักเพียงใด เธอก็ไม่เคยหวั่น
( ผู้รับบท : ชิบุยะ อาสึกะ )
ไซคิ : นักวิทยาศาสตร์ชาวดาวเรฟผู้มีมันสมองอันปราดเปรื่อง
เขาสามารถสื่อสารทางจิตกับ ควีนเบเซลบ์ ที่เป็นหัวหน้าผู้นำกองทัพปีศาจอวกาศ เบเซลบ์ ได้
จึงสามารถที่จะควบคุมฝูง เบเซลบ์ ได้
เขากำลังวางแผนที่จะใช้ คุกุตสึ พิษของเบเซลบ์ ในการช่วงชิงเอาความนึกคิดของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลมา
เพื่อสร้างจักรวาลอันแสนสงบสุขที่ไม่มีการก่อสงคราม
ปกติเขาจะมี AI ( ปัญญาประดิษฐ์ ) ผู้ช่วยสนับสนุน
ที่มีรูปร่างกลมๆและมีดวงตาเป็นรูปดาวคอยอยู่ข้างกายเสมอ
( ผู้รับบท : อิสุมิ โมโตยะ )
อาสึกะ ชิน : หลังจากที่เขาต่อสู้เพื่อปกป้องโลกจากการคุกคามของ สเฟียร์ สิ่งมีชีวิตปริศนา
ในฐานะของ อุลตร้าแมนไดน่า ได้สำเร็จ เขาจึงออกเดินทางข้ามมิติเวลาไปเรื่อยๆ
จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่า ไซคิ กำลังจะนำพาความโกลาหลมาสู่จักรวาล
เขาจึงได้ไปขอความร่วมมือจาก ฮารุโนะ มุซาชิ
และคอยสนับสนุน อุลตร้าแมนออร์บ ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า
( ผู้รับบท : ซึรุโนะ ทาเคชิ )
ฮารุโนะ มุซาชิ : หลังจากที่เขาต่อสู้เพื่อปกป้องโลกและเหล่าสัตว์ประหลาด
จากการคุกคามของคาออสเฮดเดอร์
ในฐานะของ อุลตร้าแมนคอสมอส ได้สำเร็จ
ปัจจุบันเขาได้ย้ายมาอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์จูรันเพื่อคอยเฝ้าดูแลพวกสัตว์ประหลาด
ด้วยจิตใจที่แสนอ่อนโยนและคิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ประหลาดมาโดยตลอด
เขาได้รับคำขอร้องจาก อาสึกะ จึงเดินทางมายังดาวประชารัฐคาน่อน
และเห็นด้วยกับความคิดของ ราชินีอามาเตะ ที่พยายามจะรักษาสันติสุขเอาไว้
โดยไม่ให้เกิดสงคราม
( ผู้รับบท : ซึงิอุระ ไทโย )
ทาคายามะ กามุ : นักฟิสิกส์ควอนตัมผู้มีมันสมองอันปราดเปรื่อง
ในฐานะของ อุลตร้าแมนคอสมอส ได้สำเร็จ
ปัจจุบันเขาได้ย้ายมาอาศัยอยู่บนดาวเคราะห์จูรันเพื่อคอยเฝ้าดูแลพวกสัตว์ประหลาด
ด้วยจิตใจที่แสนอ่อนโยนและคิดจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสัตว์ประหลาดมาโดยตลอด
เขาได้รับคำขอร้องจาก อาสึกะ จึงเดินทางมายังดาวประชารัฐคาน่อน
และเห็นด้วยกับความคิดของ ราชินีอามาเตะ ที่พยายามจะรักษาสันติสุขเอาไว้
โดยไม่ให้เกิดสงคราม
( ผู้รับบท : ซึงิอุระ ไทโย )
ทาคายามะ กามุ : นักฟิสิกส์ควอนตัมผู้มีมันสมองอันปราดเปรื่อง
ซึ่งสามารถคว้าวุฒิด็อกเตอร์มาได้ด้วยวัยเพียง 17 ปี
เขาคือผู้ที่แปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนไกอา และร่วมต่อสู้กับ อุลตร้าแมนอะกูล
จนสามารถปกป้องโลกและเหล่าสัตว์ประหลาด
จากการคุกคามของผู้นำพามาซึ่งความหายนะได้เป็นผลสำเร็จ
เขาได้ให้คำแนะนำกับ ไก ที่แตกคอกับ จั๊กเกลอร์ ว่า
"สักวัน วันที่ทั้งคู่จะเข้าใจซึ่งกันและกันได้จะต้องมาถึงแน่นอน"
( ผู้รับบท : โยชิโอกะ ทาเคชิ )
ฟูจิมิยะ ฮิโรยะ : ครั้งหนึ่งเขาเคยแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนอะกูล และร่วมต่อสู้กับ อุลตร้าแมนไกอา
จนสามารถปกป้องโลกและเหล่าสัตว์ประหลาด
จากการคุกคามของผู้นำพามาซึ่งความหายนะได้เป็นผลสำเร็จ
เขารู้สึกว่า ไซคิ ก็เหมือนกับตัวของเขาเองในอดีต เพราะคำพูดของ ไซคิ ที่ตัดสินเอาเองว่า
"อวกาศที่ยังคงมีสงครามไม่รู้จักจบจักสิ้นก็เปรียบเสมือนกับระบบที่ไม่สมบูรณ์"
( ผู้รับบท : ทาคาโนะ ฮัซเซย์ )
โมริวากิ โชเฮย์ : นักชีววิทยาทางทะเลชาวโลกที่ไปสัมผัสกับ หีบศักดิ์สิทธิ์ และ เมล็ดพันธุ์ปริศนา
ที่เขานำกลับมาจากโบราณสถานใต้ทะเลซึ่งเขาได้ค้นพบในตอนที่ออกไปสำรวจใต้ทะเลลึก
จนสามารถจูนความรู้สึกนึกคิดให้ตรงกับ อามาเตะ และเชื่อมโยงความรู้สึกถึงกันได้
( ผู้รับบท : ฟูรุฮาระ ยาสึฮิสะ )
นิชิโอกะ ยูอิ : นักชีววิทยาผู้ค้นพบโบราณสถานใต้ทะเลลึกพร้อมกับโชเฮย์
เธอคอยเป็นห่วง โชเฮย์ ที่มีอาการผิดปกติทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ภายหลังจากที่เขาสามารถเชื่อมโยงความรู้สึกสื่อถึง อามาเตะ ได้ มาโดยตลอด
( ผู้รับบท : มิยาซากิ คาเรน )
อาโออิ โยสุเกะ : นักวิชาการผู้ค้นคว้าวิจัย หีบศักดิ์สิทธิ์ กับ เมล็ดพันธุ์ปริศนา ที่ โชเฮย์ และ ยูอิ
เขาคือผู้ที่แปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนไกอา และร่วมต่อสู้กับ อุลตร้าแมนอะกูล
จนสามารถปกป้องโลกและเหล่าสัตว์ประหลาด
จากการคุกคามของผู้นำพามาซึ่งความหายนะได้เป็นผลสำเร็จ
เขาได้ให้คำแนะนำกับ ไก ที่แตกคอกับ จั๊กเกลอร์ ว่า
"สักวัน วันที่ทั้งคู่จะเข้าใจซึ่งกันและกันได้จะต้องมาถึงแน่นอน"
( ผู้รับบท : โยชิโอกะ ทาเคชิ )
ฟูจิมิยะ ฮิโรยะ : ครั้งหนึ่งเขาเคยแปลงร่างเป็น อุลตร้าแมนอะกูล และร่วมต่อสู้กับ อุลตร้าแมนไกอา
จนสามารถปกป้องโลกและเหล่าสัตว์ประหลาด
จากการคุกคามของผู้นำพามาซึ่งความหายนะได้เป็นผลสำเร็จ
เขารู้สึกว่า ไซคิ ก็เหมือนกับตัวของเขาเองในอดีต เพราะคำพูดของ ไซคิ ที่ตัดสินเอาเองว่า
"อวกาศที่ยังคงมีสงครามไม่รู้จักจบจักสิ้นก็เปรียบเสมือนกับระบบที่ไม่สมบูรณ์"
( ผู้รับบท : ทาคาโนะ ฮัซเซย์ )
โมริวากิ โชเฮย์ : นักชีววิทยาทางทะเลชาวโลกที่ไปสัมผัสกับ หีบศักดิ์สิทธิ์ และ เมล็ดพันธุ์ปริศนา
ที่เขานำกลับมาจากโบราณสถานใต้ทะเลซึ่งเขาได้ค้นพบในตอนที่ออกไปสำรวจใต้ทะเลลึก
จนสามารถจูนความรู้สึกนึกคิดให้ตรงกับ อามาเตะ และเชื่อมโยงความรู้สึกถึงกันได้
( ผู้รับบท : ฟูรุฮาระ ยาสึฮิสะ )
นิชิโอกะ ยูอิ : นักชีววิทยาผู้ค้นพบโบราณสถานใต้ทะเลลึกพร้อมกับโชเฮย์
เธอคอยเป็นห่วง โชเฮย์ ที่มีอาการผิดปกติทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
ภายหลังจากที่เขาสามารถเชื่อมโยงความรู้สึกสื่อถึง อามาเตะ ได้ มาโดยตลอด
( ผู้รับบท : มิยาซากิ คาเรน )
อาโออิ โยสุเกะ : นักวิชาการผู้ค้นคว้าวิจัย หีบศักดิ์สิทธิ์ กับ เมล็ดพันธุ์ปริศนา ที่ โชเฮย์ และ ยูอิ
เป็นผู้นำมันกลับมา
เขาสันนิษฐานว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สลักอยู่บนหีบศักดิ์สิทธิ์นั้นน่าจะเป็น "อิ๊กดราซิล"
( ผู้รับบท : มิสเตอร์จิง)
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในซีรีส์ Ultraman Orb The Origin Saga
ตอนที่ 1 "ดาวจรัสแสง" ตอนที่ 7 "จิตมัวหมอง"
ตอนที่ 2 "พรหมลิขิต" ตอนที่ 8 "ก้องกังวาน"
ตอนที่ 3 "เสียงสะท้อน" ตอนที่ 9 "หลักความเป็นจริง"
ตอนที่ 4 "สะกดรอยตาม" ตอนที่ 10 "พายุดอกไม้"
ตอนที่ 5 "รุ่งอรุณ" ตอนที่ 11 "ควันสลัว"
ตอนที่ 6 "เทพสงคราม" ตอนที่ 12 "โลกใบใหม่"
ปีศาจอวกาศ BEZELB
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดแมลงสีดำที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ไซน์
พวกมันมักจะออกไปปฏิบัติภารกิจร่วมกันเป็นฝูง
โดยจะมีความสูงอยู่ 3 ขนาด ด้วยกัน คือ 2 เมตร , 10 เมตร และ 50 เมตร
พวกมันจะใช้กงเล็บที่แขนทั้งสองข้างและกระสุนเพลิงที่ยิงออกมาจากปากเป็นอาวุธ
นอกจากนี้มันยังสามารถฉีดพิษที่มีชื่อว่า "คุกุตสึ" จากเข็มที่อยู่ตรงปลายหางใส่ศัตรู
เพื่อควบคุมอีกฝ่ายได้ดั่งใจนึก
สัตว์ประหลาดที่ถูกพิษนี้ฉีดเข้าไปในร่างจะเรียกว่า "สัตว์ประหลาดคุกุตสึ"
และใครก็ตามที่โดนพิษนี้เข้า สีของดวงตาก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ปีศาจอวกาศ QUEEN BEZELB
ลักษณะพิเศษ : ราชินีที่อยู่เหนือพวกเบเซลบ์ทั้งปวง
มันคือต้นตอในการปล่อยพิษ "คุกุตสึ" เข้าควบคุมเบเซลบ์ทุกตัว
พร้อมกับ ไซคิ ที่จูนคลื่นโทรจิตให้ตรงกับมัน
เดิมมันถือกำเนิดมาจากต้นไม้แห่งชีวิตพร้อมกับเทพสงคราม "อิคุซากามิ"
ซึ่งในเทวตำนานบนดาวคาน่อนได้กล่าวเอาไว้ว่า
"ยามใดที่ อิคุซากามิ กับ ควีนเบเซลบ์ ซึ่งเปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์แห่งแสงและความมืด
มาเผชิญหน้ากันโลกก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง"
ปีศาจอวกาศ PSYQUEEN
ลักษณะพิเศษ : เนื่องจากอุปกรณ์ควบคุม ควีนเบเซลบ์ เกิดการโอเวอร์ฮีท
ไซคิ ที่อับจนหนทางจึงได้อาศัยพลังของ บาร์เทล เปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นมวลสาร
เพื่อรวมร่างกับ ควีนเบเซลบ์ ที่ถูกแปลงเป็นมวลสารเหมือนกัน
จนถือกำเนิดเป็นศัตรูผู้แข็งแกร่งเกรียงไกร
ภาพยนตร์ภาคต่อจากทีวีซีรีส์อุลตร้าแมนออร์บ ซึ่งจะกล่าวถึงการปรากฏตัวของ ออร์บร่างใหม่ "ออร์บทรินิตี้" ที่ร่วมศึกต่อสู้กับเหล่านักรบอุลตร้าคนอื่นๆ โดยทางฝั่งนักรบอุลตร้านั้นจะมีดารานักแสดงรับเชิญ คือ คุณทาคาฮาชิ เคนสุเกะ ผู้รับบทเป็น โอโซระ ไดจิ ในซีรีส์ "อุลตร้าแมน X" และ คุณโมริซึงุ โคจิ ผู้รับบทเป็น โมโรโบชิ แดน ในซีรีส์ "อุลตร้าเซเว่น" ซึ่งปี 2017 นั้นเป็นปีที่ครบรอบ 50 ปี ของอุลตร้าเซเว่นพอดี นอกจากนี้ยังมีผู้พากย์เสียงของ อุลตร้าแมนเอ็กซ์ , อุลตร้าแมนเซโร่ , อุลตร้าแมนกิงกะ และ อุลตร้าแมนวิคตอรี่ มาร่วมให้เสียงพากย์ด้วย ส่วนนักแสดงรับเชิญที่มารับบทเป็นตัวร้ายนั้นก็ได้รับเกียรติจากดาราตลกอย่าง คุณโอนิยัคโกะ มารับบทเป็น เมอร์นาว บอสตัวแม่ของเรื่องนี้ และยังมี คุณยามาเดระ โคอิจิ มาพากย์เสียงให้ ซาเดส ซึ่งถือเป็นการร่วมงานในซีรีส์อุลตร้าอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปถึง 27 ปี นับตั้งแต่ซีรีส์ "อุลตร้าแมนเกรท" อีกทั้งยังมีกลุ่มนักแสดงตลกอย่าง จังเกิ้ลพ็อคเก็ท และ คุณคุโด้ ไทคิ กับ คุณฮานามูระ โซตะ จากวง Da-iCE ที่รับหน้าที่ร้องเพลงปิดในเรื่องนี้มาช่วยพากย์เสียงมนุษย์ต่างดาวด้วย
คุณทางุจิ คิโยทากะ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ควบคู่ไปกับการถ่ายทำตอนสุดท้ายในทีวีซีรีส์ของ "อุลตร้าแมนออร์บ" เหมือนกับตอนที่ถ่ายทำ "อุลตร้าแมน X เดอะมูฟวี่ มาแล้ว ! อุลตร้าแมนของพวกเรา" โดยตอนแรกทางทีมงานมีไอเดียจะตั้งชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "อุลตร้าแมนออร์บ vs อุลตร้าแมน X" โดยให้ทีม XIO หน่วยพิทักษ์ในซีรีส์ "อุลตร้าแมน X" กลายเป็นฝั่งวายร้ายมาบุกโจมตีโลกของ "อุลตร้าแมนออร์บ" ด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่เนื่องจากต้องใช้นักแสดงจากซีรีส์ "อุลตร้าแมน X" เยอะเกินไป ทางทีมงานจึงเปลี่ยนแนวให้ตัวละครหลักเฉพาะ ไดจิ กับ อุลตร้าแมน X มาปรากฏตัวแทน
"อุลตร้าแมนออร์บ เดอะมูฟวี่ ขอยืมพลังแห่งสายสัมพันธ์ด้วยครับ ! " ได้เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ในเครือบริษัทโชจิคุทั่วประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2017
ตัวละครหลักที่ปรากฎในหนังโรง Ultraman Orb :
Lend Me The Power of Bonds ! จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายดังนี้
ฝ่ายนักรบอุลตร้า
ULTRAMAN ORB TRINITY
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : ไม่สามารถวัดค่าได้
ความเร็วในการวิ่ง : 20 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 18 มัค
พลังกระโดด : 5,000 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ถือกำเนิดจากการรวมพลังของ อุลตร้าแมนกิงกะ , อุลตร้าแมนวิคตอรี่ , อุลตร้าแมนเอ็กซ์
ทั้ง 3 คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ขอยืมพลังแห่งแสงทั้ง 3 ด้วยครับ !"
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า
"สานสายสัมพันธ์กับแสงทั้ง 3 และหยัดยืนอย่างองอาจ ณ.บัดดล !"
ULTRAMAN X
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อุลตร้าแมนที่เปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นข้อมูล
แล้วนำเอาจิตวิญญาณของตนไปสิงสถิตย์อยู่ใน "เอ็กซ์ดีไวซ์เซอร์"
เขาสามารถกลับคืนสู่ร่างจริงได้โดยการ ยูไนท์ กับ โอโซระ ไดจิ เจ้าหน้าที่จากทีม Xio
นอกจากนี้เขายังสามารถแปลงข้อมูลของสัตว์ประหลาดไซเบอร์ที่ทีม Xio คิดค้นพัฒนาขึ้นมา
ให้กลายเป็นชุดเกราะ มอนส์อาร์เมอร์ แล้วนำมาสวมใส่
เพื่อดึงเอาพลังของสัตว์ประหลาดไซเบอร์มาใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย
อาทิเช่น "โกโมล่าอาร์เมอร์" ชุดเกราะสีฟ้าที่ยืมพลังมาจากไซเบอร์โกโมล่า
ซึ่งถนัดในการต่อสู้ด้วยการโจมตีอันหนักหน่วง
โดยใช้กงเล็บที่แขนทั้งสองข้างกำราบศัตรูให้พินาศ
ท่าไม้ตายของเขา คือ "ลำแสงซานาเดี้ยม"
ที่ต้องรวบรวมพลังงานแสงจากทั่วร่างมาไว้ที่แขนทั้งสองข้างก่อนที่จะปล่อยออกมา
เขาได้เดินทางมุ่งหน้าสู่อวกาศพร้อมกับ ไดจิ
แต่เกิดไปติดกับดักเข้าจนไม่สามารถออกมาจาก เอ็กซ์ดีไวซ์เซอร์ ได้
จากนั้น เอ็กซ์ดีไวซ์เซอร์ ก็ได้ตกมาอยู่ในมือของทีม SSP
ULTRAMAN GINGA
ความสูง : ไมโคร ~ ∞
น้ำหนัก : ไมโคร ~ ∞
ลักษณะพิเศษ : อุลตร้าแมนที่ ไรโด ฮิคารุ เป็นผู้ใช้ "กิงกะสปาร์ค" ในการแปลงร่าง
เขาสามารถแสดงพลังความสามารถต่างๆออกมาใช้ในการต่อสู้ได้
โดยการเปลี่ยนสีคริสตัลที่อยู่ทั่วร่างของเขาได้ถึง 7 สี
นอกจากท่าไม้ตายอย่างลำแสง "กิงกะครอสชู้ต" ที่ปล่อยออกมา
เขาสันนิษฐานว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สลักอยู่บนหีบศักดิ์สิทธิ์นั้นน่าจะเป็น "อิ๊กดราซิล"
( ผู้รับบท : มิสเตอร์จิง)
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในซีรีส์ Ultraman Orb The Origin Saga
ตอนที่ 1 "ดาวจรัสแสง" ตอนที่ 7 "จิตมัวหมอง"
ตอนที่ 2 "พรหมลิขิต" ตอนที่ 8 "ก้องกังวาน"
ตอนที่ 3 "เสียงสะท้อน" ตอนที่ 9 "หลักความเป็นจริง"
ตอนที่ 4 "สะกดรอยตาม" ตอนที่ 10 "พายุดอกไม้"
ตอนที่ 5 "รุ่งอรุณ" ตอนที่ 11 "ควันสลัว"
ตอนที่ 6 "เทพสงคราม" ตอนที่ 12 "โลกใบใหม่"
ปีศาจอวกาศ BEZELB
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดแมลงสีดำที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ไซน์
พวกมันมักจะออกไปปฏิบัติภารกิจร่วมกันเป็นฝูง
โดยจะมีความสูงอยู่ 3 ขนาด ด้วยกัน คือ 2 เมตร , 10 เมตร และ 50 เมตร
พวกมันจะใช้กงเล็บที่แขนทั้งสองข้างและกระสุนเพลิงที่ยิงออกมาจากปากเป็นอาวุธ
นอกจากนี้มันยังสามารถฉีดพิษที่มีชื่อว่า "คุกุตสึ" จากเข็มที่อยู่ตรงปลายหางใส่ศัตรู
เพื่อควบคุมอีกฝ่ายได้ดั่งใจนึก
สัตว์ประหลาดที่ถูกพิษนี้ฉีดเข้าไปในร่างจะเรียกว่า "สัตว์ประหลาดคุกุตสึ"
และใครก็ตามที่โดนพิษนี้เข้า สีของดวงตาก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ปีศาจอวกาศ QUEEN BEZELB
ลักษณะพิเศษ : ราชินีที่อยู่เหนือพวกเบเซลบ์ทั้งปวง
มันคือต้นตอในการปล่อยพิษ "คุกุตสึ" เข้าควบคุมเบเซลบ์ทุกตัว
พร้อมกับ ไซคิ ที่จูนคลื่นโทรจิตให้ตรงกับมัน
เดิมมันถือกำเนิดมาจากต้นไม้แห่งชีวิตพร้อมกับเทพสงคราม "อิคุซากามิ"
ซึ่งในเทวตำนานบนดาวคาน่อนได้กล่าวเอาไว้ว่า
"ยามใดที่ อิคุซากามิ กับ ควีนเบเซลบ์ ซึ่งเปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์แห่งแสงและความมืด
มาเผชิญหน้ากันโลกก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง"
ปีศาจอวกาศ PSYQUEEN
ลักษณะพิเศษ : เนื่องจากอุปกรณ์ควบคุม ควีนเบเซลบ์ เกิดการโอเวอร์ฮีท
ไซคิ ที่อับจนหนทางจึงได้อาศัยพลังของ บาร์เทล เปลี่ยนร่างของตัวเองให้กลายเป็นมวลสาร
เพื่อรวมร่างกับ ควีนเบเซลบ์ ที่ถูกแปลงเป็นมวลสารเหมือนกัน
จนถือกำเนิดเป็นศัตรูผู้แข็งแกร่งเกรียงไกร
**************************************************
**************************************************
อุลตร้าแมนออร์บ
ขอยืมพลังแห่งสายสัมพันธ์ด้วยครับ !
ภาพยนตร์ภาคต่อจากทีวีซีรีส์อุลตร้าแมนออร์บ ซึ่งจะกล่าวถึงการปรากฏตัวของ ออร์บร่างใหม่ "ออร์บทรินิตี้" ที่ร่วมศึกต่อสู้กับเหล่านักรบอุลตร้าคนอื่นๆ โดยทางฝั่งนักรบอุลตร้านั้นจะมีดารานักแสดงรับเชิญ คือ คุณทาคาฮาชิ เคนสุเกะ ผู้รับบทเป็น โอโซระ ไดจิ ในซีรีส์ "อุลตร้าแมน X" และ คุณโมริซึงุ โคจิ ผู้รับบทเป็น โมโรโบชิ แดน ในซีรีส์ "อุลตร้าเซเว่น" ซึ่งปี 2017 นั้นเป็นปีที่ครบรอบ 50 ปี ของอุลตร้าเซเว่นพอดี นอกจากนี้ยังมีผู้พากย์เสียงของ อุลตร้าแมนเอ็กซ์ , อุลตร้าแมนเซโร่ , อุลตร้าแมนกิงกะ และ อุลตร้าแมนวิคตอรี่ มาร่วมให้เสียงพากย์ด้วย ส่วนนักแสดงรับเชิญที่มารับบทเป็นตัวร้ายนั้นก็ได้รับเกียรติจากดาราตลกอย่าง คุณโอนิยัคโกะ มารับบทเป็น เมอร์นาว บอสตัวแม่ของเรื่องนี้ และยังมี คุณยามาเดระ โคอิจิ มาพากย์เสียงให้ ซาเดส ซึ่งถือเป็นการร่วมงานในซีรีส์อุลตร้าอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปถึง 27 ปี นับตั้งแต่ซีรีส์ "อุลตร้าแมนเกรท" อีกทั้งยังมีกลุ่มนักแสดงตลกอย่าง จังเกิ้ลพ็อคเก็ท และ คุณคุโด้ ไทคิ กับ คุณฮานามูระ โซตะ จากวง Da-iCE ที่รับหน้าที่ร้องเพลงปิดในเรื่องนี้มาช่วยพากย์เสียงมนุษย์ต่างดาวด้วย
คุณทางุจิ คิโยทากะ ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เริ่มเปิดกล้องถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ควบคู่ไปกับการถ่ายทำตอนสุดท้ายในทีวีซีรีส์ของ "อุลตร้าแมนออร์บ" เหมือนกับตอนที่ถ่ายทำ "อุลตร้าแมน X เดอะมูฟวี่ มาแล้ว ! อุลตร้าแมนของพวกเรา" โดยตอนแรกทางทีมงานมีไอเดียจะตั้งชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "อุลตร้าแมนออร์บ vs อุลตร้าแมน X" โดยให้ทีม XIO หน่วยพิทักษ์ในซีรีส์ "อุลตร้าแมน X" กลายเป็นฝั่งวายร้ายมาบุกโจมตีโลกของ "อุลตร้าแมนออร์บ" ด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่เนื่องจากต้องใช้นักแสดงจากซีรีส์ "อุลตร้าแมน X" เยอะเกินไป ทางทีมงานจึงเปลี่ยนแนวให้ตัวละครหลักเฉพาะ ไดจิ กับ อุลตร้าแมน X มาปรากฏตัวแทน
"อุลตร้าแมนออร์บ เดอะมูฟวี่ ขอยืมพลังแห่งสายสัมพันธ์ด้วยครับ ! " ได้เข้าฉายตามโรงภาพยนตร์ในเครือบริษัทโชจิคุทั่วประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2017
ตัวละครหลักที่ปรากฎในหนังโรง Ultraman Orb :
Lend Me The Power of Bonds ! จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายดังนี้
ฝ่ายนักรบอุลตร้า
ULTRAMAN ORB TRINITY
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : ไม่สามารถวัดค่าได้
ความเร็วในการวิ่ง : 20 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 18 มัค
พลังกระโดด : 5,000 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ถือกำเนิดจากการรวมพลังของ อุลตร้าแมนกิงกะ , อุลตร้าแมนวิคตอรี่ , อุลตร้าแมนเอ็กซ์
ทั้ง 3 คน ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ขอยืมพลังแห่งแสงทั้ง 3 ด้วยครับ !"
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า
"สานสายสัมพันธ์กับแสงทั้ง 3 และหยัดยืนอย่างองอาจ ณ.บัดดล !"
ULTRAMAN X
ความสูง : 45 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : อุลตร้าแมนที่เปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นข้อมูล
แล้วนำเอาจิตวิญญาณของตนไปสิงสถิตย์อยู่ใน "เอ็กซ์ดีไวซ์เซอร์"
เขาสามารถกลับคืนสู่ร่างจริงได้โดยการ ยูไนท์ กับ โอโซระ ไดจิ เจ้าหน้าที่จากทีม Xio
นอกจากนี้เขายังสามารถแปลงข้อมูลของสัตว์ประหลาดไซเบอร์ที่ทีม Xio คิดค้นพัฒนาขึ้นมา
ให้กลายเป็นชุดเกราะ มอนส์อาร์เมอร์ แล้วนำมาสวมใส่
เพื่อดึงเอาพลังของสัตว์ประหลาดไซเบอร์มาใช้ในการต่อสู้ได้อีกด้วย
อาทิเช่น "โกโมล่าอาร์เมอร์" ชุดเกราะสีฟ้าที่ยืมพลังมาจากไซเบอร์โกโมล่า
ซึ่งถนัดในการต่อสู้ด้วยการโจมตีอันหนักหน่วง
โดยใช้กงเล็บที่แขนทั้งสองข้างกำราบศัตรูให้พินาศ
ท่าไม้ตายของเขา คือ "ลำแสงซานาเดี้ยม"
ที่ต้องรวบรวมพลังงานแสงจากทั่วร่างมาไว้ที่แขนทั้งสองข้างก่อนที่จะปล่อยออกมา
เขาได้เดินทางมุ่งหน้าสู่อวกาศพร้อมกับ ไดจิ
แต่เกิดไปติดกับดักเข้าจนไม่สามารถออกมาจาก เอ็กซ์ดีไวซ์เซอร์ ได้
จากนั้น เอ็กซ์ดีไวซ์เซอร์ ก็ได้ตกมาอยู่ในมือของทีม SSP
ULTRAMAN GINGA
ความสูง : ไมโคร ~ ∞
น้ำหนัก : ไมโคร ~ ∞
ลักษณะพิเศษ : อุลตร้าแมนที่ ไรโด ฮิคารุ เป็นผู้ใช้ "กิงกะสปาร์ค" ในการแปลงร่าง
เขาสามารถแสดงพลังความสามารถต่างๆออกมาใช้ในการต่อสู้ได้
โดยการเปลี่ยนสีคริสตัลที่อยู่ทั่วร่างของเขาได้ถึง 7 สี
นอกจากท่าไม้ตายอย่างลำแสง "กิงกะครอสชู้ต" ที่ปล่อยออกมา
ในขณะที่คริสตัลเปล่งแสงสีฟ้าแล้ว
เขายังมี "กิงกะสปาร์คแลนซ์" อาวุธที่แปรสภาพมาจาก กิงกะสปาร์ค
และท่าไม้ตายอื่นๆซ่อนเร้นอยู่อีกมากมาย
แถมเขายังต่อสู้ประสานงานกับ อุลตร้าแมนวิคตอรี่ ที่ร่วมต่อสู้กันมานานได้เข้าขาเป็นอย่างดี
ULTRAMAN VICTORY
ความสูง : ไมโคร ~ ∞
น้ำหนัก : ไมโคร ~ ∞
ลักษณะพิเศษ : อุลตร้าแมนจากโลกใต้พิภพที่ โช ชาววิคตอเรี่ยนเป็นผู้ใช้ "วิคตอรี่แลนเซอร์" ในการแปลงร่าง
เขาได้ผ่านศึกร่วมกับ อุลตร้าแมนกิงกะ มาอย่างโชกโชน
และมีความผูกผันอย่างเหนียวแน่นกับ อสูรศักดิ์สิทธิ์ใต้พิภพ เชพเพิร์ดด้อน
ที่คอยปกป้องคุ้มครองชาววิคตอเรี่ยนมาโดยตลอด
นอกจากเขาจะมีท่า "อุลทรานส์" ที่ยืมพลังความสามารถของสัตว์ประหลาด
เขายังมี "กิงกะสปาร์คแลนซ์" อาวุธที่แปรสภาพมาจาก กิงกะสปาร์ค
และท่าไม้ตายอื่นๆซ่อนเร้นอยู่อีกมากมาย
แถมเขายังต่อสู้ประสานงานกับ อุลตร้าแมนวิคตอรี่ ที่ร่วมต่อสู้กันมานานได้เข้าขาเป็นอย่างดี
ULTRAMAN VICTORY
ความสูง : ไมโคร ~ ∞
น้ำหนัก : ไมโคร ~ ∞
ลักษณะพิเศษ : อุลตร้าแมนจากโลกใต้พิภพที่ โช ชาววิคตอเรี่ยนเป็นผู้ใช้ "วิคตอรี่แลนเซอร์" ในการแปลงร่าง
เขาได้ผ่านศึกร่วมกับ อุลตร้าแมนกิงกะ มาอย่างโชกโชน
และมีความผูกผันอย่างเหนียวแน่นกับ อสูรศักดิ์สิทธิ์ใต้พิภพ เชพเพิร์ดด้อน
ที่คอยปกป้องคุ้มครองชาววิคตอเรี่ยนมาโดยตลอด
นอกจากเขาจะมีท่า "อุลทรานส์" ที่ยืมพลังความสามารถของสัตว์ประหลาด
มาใช้ในการต่อสู้ได้แล้ว
เขายังมีท่า "เชพเพิร์ดด้อนเซเบอร์แฟลช" ที่ปล่อยออกมาจาก "เชพเพิร์ดด้อนเซเบอร์"
เขายังมีท่า "เชพเพิร์ดด้อนเซเบอร์แฟลช" ที่ปล่อยออกมาจาก "เชพเพิร์ดด้อนเซเบอร์"
ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ยืมพลังมาจาก เชพเพิร์ดด้อน เป็นท่าไม้ตายที่ทรงพลังอีกท่าหนึ่ง
ULTRAMAN ZERO
ความสูง : 49 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ลูกชายของ อุลตร้าเซเว่น ที่ได้รับการสืบทอดท่าไม้ตายต่างๆมาจากพ่อ
ไม่ว่าจะเป็น "เซโร่สลักเกอร์" บูมเมอแรงอวกาศที่เขวี้ยงออกมาจากศีรษะ
หรือ "เอเมเรี่ยมสแลช" ลำแสงที่ยิงออกมาจากหน้าผาก ฯลฯ
นอกจากนี้เขายังเป็นศิษย์ของ อุลตร้าแมนเลโอ กับ แอสทร้า อีกด้วย
แถมเขายังมี "เซโร่ทวินซอร์ด" ที่เกิดจากการนำเอา เซโร่สลักเกอร์ 2 อัน มาประกบกัน
ซึ่งใช้ในการพิชิตศัตรูสุดแกร่งมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน เป็นอาวุธประจำกาย
และยังสามารถเปลี่ยนร่างเป็น "อัลติเมทเซโร่" ได้
โดยการสวมใส่ "อัลติเมทอีจิส" ในตำนาน เพื่อเดินทางข้ามมิติได้
หลังจากผ่านการต่อสู้ตัดสินชี้ชะตากับ ไคเซอร์เบเรียล อุลตร้าแมนผู้ชั่วร้าย
ร่วมกับพวกพ้อง เขาก็ยิ่งเติบใหญ่ขึ้นทั้งกายและใจ
ในภาคนี้ อุลตร้าแมนเซโร่ ผู้กอบกู้โลกต่างๆมามากมาย
ได้เดินทางข้ามห้วงมิติเวลา เพื่อมาบอกให้ ไก รับรู้ถึงภัยร้ายที่กำลังจะมาคุกคามโลก
ULTRASEVEN
ความสูง : 40 เมตร ( สามารถย่อร่างได้ในระดับไมโคร )
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : พ่อของ อุลตร้าแมนเซโร่ ที่แปลงกายมาเป็นชาวโลกโดยใช้นามว่า "โมโรโบชิ แดน"
เขาสามารถแปลงกายกลับคืนสู่ร่างเดิมได้โดยใช้ "อุลตร้าอาย"
ตอนที่เขาเดินทางมายังระบบสุริยะเป็นครั้งแรก
ในฐานะเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์หมายเลข 340 จากเนบิวล่า M78
เขาได้พบเห็นชาวโลกที่ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเพื่อน
จนเกิดความประทับใจในความกล้าหาญและความอ่อนโยนของชาวโลก
นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาจึงหลงรักโลกใบนี้และคอยปกป้องโลก
จากการรุกรานของพวกมนุษย์ต่างดาวมามากมายนับไม่ถ้วน
นอกจากลำแสงอันทรงพลังอย่าง "ลำแสงเอเมเรี่ยม" หรือ "ไวด์ช็อต" แล้ว
เขายังสามารถใช้พลังจิตควบคุม "ไอสลักเกอร์" บูมเมอแรงอวกาศที่อยู่บนศีรษะได้ดั่งใจนึก
และสามารถฟันทุกสิ่งให้ขาดเป็นสองท่อนได้โดยการฟันเพียงครั้งเดียว
ตัวละครหลัก
คุเรไน ไก : นักรบแห่งแสงผู้เดินทางมาจากสุดขอบจักรวาล
เพื่อยับยั้งการคืนชีพของเหล่าจอมมารอสูรและปกป้องโลกใบนี้เอาไว้
เขาได้ตระเวนเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆบนโลกมาเป็นระยะเวลานาน
พร้อมกับคอยบรรเลงเสียงเพลงจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "ออร์บนิก้า"
ในฐานะของนักพเนจรที่มีชื่อว่า คุเรไน ไก
หลังจากที่เขาผ่านการต่อสู้กับเหล่าจอมมารอสูรมาอย่างดุเดือด เขาจึงได้ออกเดินทางอีกครั้ง
และได้กลับมาจากฮาวายเพื่อหวนคืนสู่สนามรบเพื่อมาหยุดยั้งการรุกรานโลกจากศัตรูตนใหม่
เขาสามารถ ฟิวชั่นอัพ ( แปลงร่าง ) กลับไปเป็น อุลตร้าแมนออร์บ ได้
โดยการนำ "ออร์บริงก์" ไปอ่านการ์ดที่มีพลังของนักรบอุลตร้ารุ่นก่อนๆสิงสถิตย์อยู่ 2 ใบ
แต่คราวนี้เขาจะใช้การ์ด 3 ใบ ปลดปล่อยพลังใหม่ "ทรินิตี้ฟิวชั่น" ออกมา !!
( ผู้รับบท : อิชิกุโระ ฮิเดโอะ )
ยูเมโนะ นาโอมิ : จากการที่เธอมักจะฝันเห็น "มนุษย์ยักษ์แห่งแสง" อยู่บ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก
นั่นจึงเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้เธอคิดริเริ่มที่จะสร้างเว็บไซต์สืบเสาะปรากฎการณ์ประหลาด
"SSP" ขึ้นมา ภายหลังจากที่เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัย
และเมื่อเธอได้มาพบกับ ไก เธอจึงปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้ว่าตนจะต้องเข้มแข็งขึ้น
จากนั้นเธอก็ต้องมาเผชิญหน้ากับศัตรูตนใหม่อย่างห้าวหาญ
แต่ก็ไม่วายที่จะตกอยู่ในสถานการณ์คับขันอีกเช่นเคย......!?
( ผู้รับบท : มัตสึอุระ มิยาบิ )
ฮายามิ เจ็ทตะ : เพื่อนของ นาโอมิ ที่รู้จักกันตอนอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งทีม SSP ขึ้นมา
โดยเขาจะทำหน้าที่เป็นคนอัพเดทข้อมูลบนเว็บไซต์และเป็นตากล้องให้กับทีม
ความฝันของเขาคือการทำสกู๊ปข่าวที่ทำให้โลกต้องตกตะลึงจนกลายเป็นคนดังผู้ร่ำรวย
ปัจจุบันนี้เขาก็ยังคงเสาะแสวงหาสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติจากสัตว์ประหลาดที่บุกเข้ามา
ด้วยความรู้สึกอันเร่าร้อน และเพื่อที่จะเผชิญกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
คราวนี้เขาจะมาแสดงพรสวรรค์ทางด้านเกมส์ต่อสู้อันน่าทึ่งให้พวกเราได้ดูกัน
( ผู้รับบท : ทาคาฮาชิ นาโอโตะ )
มัตสึโดะ ชิน : อัจฉริยะผู้เรียนข้ามชั้นมหาวิทยาลัยและจบปริญญาเอกได้ด้วยวัยเพียง 23 ปี
เขาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลให้กับทีม SSP
ด้วยความรู้ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางตั้งแต่วิชาฟิสิกส์ล้ำยุคล้ำสมัย
ไปจนถึงตำนานแห่งอารยธรรมโบราณ แต่ทว่า,เรื่องทั่วๆไปในบางเรื่องเขากลับไม่ยักรู้
แม้ว่า ไก จะเดินทางลาจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงคิดค้นสิ่งประดิษฐ์อันทันสมัย
และมีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง
แถมคราวนี้สิ่งประดิษฐ์ของเขายังมีบทบาทต่อทีม SSP เป็นอย่างมากอีกด้วย !?
( ผู้รับบท : เนริโอะ ฮิโรอากิ )
ชิบุคาวะ อิทเท็ตสึ : คุณอาของ นาโอมิ กัปตันทีม SSP ซึ่งสังกัดอยู่ในหน่วยไวทอล
( VTL = Versatile Tactical Leader ) ของทีมสืบสวนพิเศษ
แม้ว่าเขาดูเป็นคนติดตลกเหมือนจะพึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้
แต่ความจริงแล้วเขาเป็นถึงหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการข้อมูลพิเศษของหน่วยไวทอล
ที่พร้อมจะต่อกรกับผู้รุกรานโลกจากนอกอวกาศด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า
และมักจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในแนวหน้าอยู่บ่อยๆ
มาคราวนี้เขาก็ยังคงเผชิญกับการรุกรานครั้งใหม่อย่างกล้าหาญอีกเช่นเคย !?
( ผู้รับบท : ยานางิซาวะ ชินโกะ )
จากลาส จั๊กเกลอร์ : ในอดีตเขาเคยเป็นพรรคพวกที่อยู่ข้างเดียวกับแสง
และประชันฝีมือขับเคี่ยวกับ ไก มาโดยตลอด เพื่อที่ตนจะได้เป็นอุลตร้าแมน
แต่หลังจากที่แสงได้เลือก ไก เป็นผู้สืบทอด
จั๊กเกลอร์ ที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งพลังด้านมืด
จึงตั้งตนเป็นศัตรูคู่อริของ ไก หรือ อุลตร้าแมนออร์บ
และหมายจะคืนชีพเหล่าจอมมารอสูร จนต้องมาปะทะกับ ไก หลายครั้งหลายหน
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ร่วมต่อสู้กับ อุลตร้าแมนออร์บ
เมื่อถึงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่
ดังนั้นพวกเราจึงต้องเฝ้าจับตาดูว่าเขาจะมีบทบาทอย่างไรหลังจากนี้ต่อไป
( ผู้รับบท : อาโอยางิ ทาคายะ )
โอโซระ ไดจิ : ชายหนุ่มผู้ ยูไนท์ ( รวมร่าง ) กับ อุลตร้าแมนเอ็กซ์
เขาทำหน้าที่เป็นทั้งนักวิจัยใน "ทีมห้องแล็บ" ของหน่วยวิจัยพัฒนาให้กับ Xio สาขาญี่ปุ่น
และเป็นเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนพิเศษของ Xio
ผู้มีความใฝ่รู้ในสิ่งต่างๆและชอบออกไปเผชิญกับสัตว์ประหลาดอยู่ในแนวหน้า
ความใฝ่ฝันของเขาคือการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเหล่าสัตว์ประหลาด
เนื่องจาก อุลตร้าแมนเอ็กซ์ สัมผัสถึงภยันตรายบางอย่าง
เขาจึงได้ออกเดินทางสู่อวกาศพร้อมกับ อุลตร้าแมนเอ็กซ์ โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นกับดัก
( ผู้รับบท : ทาคาฮาชิ เคนสุเกะ )
โมโรโบชิ แดน : นักพเนจรไฟแรงผู้ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการรุกรานอันไร้มนุษยธรรม
เพราะความรู้สึกประทับใจในความกล้าหาญและความอ่อนโยนของชาวโลก
แดน จึงหลงรักโลกใบนี้และเคยต่อสู้ร่วมกับชาวโลก
ULTRAMAN ZERO
ความสูง : 49 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ลูกชายของ อุลตร้าเซเว่น ที่ได้รับการสืบทอดท่าไม้ตายต่างๆมาจากพ่อ
ไม่ว่าจะเป็น "เซโร่สลักเกอร์" บูมเมอแรงอวกาศที่เขวี้ยงออกมาจากศีรษะ
หรือ "เอเมเรี่ยมสแลช" ลำแสงที่ยิงออกมาจากหน้าผาก ฯลฯ
นอกจากนี้เขายังเป็นศิษย์ของ อุลตร้าแมนเลโอ กับ แอสทร้า อีกด้วย
แถมเขายังมี "เซโร่ทวินซอร์ด" ที่เกิดจากการนำเอา เซโร่สลักเกอร์ 2 อัน มาประกบกัน
ซึ่งใช้ในการพิชิตศัตรูสุดแกร่งมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน เป็นอาวุธประจำกาย
และยังสามารถเปลี่ยนร่างเป็น "อัลติเมทเซโร่" ได้
โดยการสวมใส่ "อัลติเมทอีจิส" ในตำนาน เพื่อเดินทางข้ามมิติได้
หลังจากผ่านการต่อสู้ตัดสินชี้ชะตากับ ไคเซอร์เบเรียล อุลตร้าแมนผู้ชั่วร้าย
ร่วมกับพวกพ้อง เขาก็ยิ่งเติบใหญ่ขึ้นทั้งกายและใจ
ในภาคนี้ อุลตร้าแมนเซโร่ ผู้กอบกู้โลกต่างๆมามากมาย
ได้เดินทางข้ามห้วงมิติเวลา เพื่อมาบอกให้ ไก รับรู้ถึงภัยร้ายที่กำลังจะมาคุกคามโลก
ULTRASEVEN
ความสูง : 40 เมตร ( สามารถย่อร่างได้ในระดับไมโคร )
น้ำหนัก : 3 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : พ่อของ อุลตร้าแมนเซโร่ ที่แปลงกายมาเป็นชาวโลกโดยใช้นามว่า "โมโรโบชิ แดน"
เขาสามารถแปลงกายกลับคืนสู่ร่างเดิมได้โดยใช้ "อุลตร้าอาย"
ตอนที่เขาเดินทางมายังระบบสุริยะเป็นครั้งแรก
ในฐานะเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์หมายเลข 340 จากเนบิวล่า M78
เขาได้พบเห็นชาวโลกที่ยอมสละชีวิตของตัวเองเพื่อช่วยเพื่อน
จนเกิดความประทับใจในความกล้าหาญและความอ่อนโยนของชาวโลก
นับแต่นั้นเป็นต้นมา เขาจึงหลงรักโลกใบนี้และคอยปกป้องโลก
จากการรุกรานของพวกมนุษย์ต่างดาวมามากมายนับไม่ถ้วน
นอกจากลำแสงอันทรงพลังอย่าง "ลำแสงเอเมเรี่ยม" หรือ "ไวด์ช็อต" แล้ว
เขายังสามารถใช้พลังจิตควบคุม "ไอสลักเกอร์" บูมเมอแรงอวกาศที่อยู่บนศีรษะได้ดั่งใจนึก
และสามารถฟันทุกสิ่งให้ขาดเป็นสองท่อนได้โดยการฟันเพียงครั้งเดียว
ตัวละครหลัก
คุเรไน ไก : นักรบแห่งแสงผู้เดินทางมาจากสุดขอบจักรวาล
เพื่อยับยั้งการคืนชีพของเหล่าจอมมารอสูรและปกป้องโลกใบนี้เอาไว้
เขาได้ตระเวนเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆบนโลกมาเป็นระยะเวลานาน
พร้อมกับคอยบรรเลงเสียงเพลงจากเครื่องดนตรีที่เรียกว่า "ออร์บนิก้า"
ในฐานะของนักพเนจรที่มีชื่อว่า คุเรไน ไก
หลังจากที่เขาผ่านการต่อสู้กับเหล่าจอมมารอสูรมาอย่างดุเดือด เขาจึงได้ออกเดินทางอีกครั้ง
และได้กลับมาจากฮาวายเพื่อหวนคืนสู่สนามรบเพื่อมาหยุดยั้งการรุกรานโลกจากศัตรูตนใหม่
เขาสามารถ ฟิวชั่นอัพ ( แปลงร่าง ) กลับไปเป็น อุลตร้าแมนออร์บ ได้
โดยการนำ "ออร์บริงก์" ไปอ่านการ์ดที่มีพลังของนักรบอุลตร้ารุ่นก่อนๆสิงสถิตย์อยู่ 2 ใบ
แต่คราวนี้เขาจะใช้การ์ด 3 ใบ ปลดปล่อยพลังใหม่ "ทรินิตี้ฟิวชั่น" ออกมา !!
( ผู้รับบท : อิชิกุโระ ฮิเดโอะ )
ยูเมโนะ นาโอมิ : จากการที่เธอมักจะฝันเห็น "มนุษย์ยักษ์แห่งแสง" อยู่บ่อยๆมาตั้งแต่เด็ก
นั่นจึงเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้เธอคิดริเริ่มที่จะสร้างเว็บไซต์สืบเสาะปรากฎการณ์ประหลาด
"SSP" ขึ้นมา ภายหลังจากที่เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัย
และเมื่อเธอได้มาพบกับ ไก เธอจึงปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้ว่าตนจะต้องเข้มแข็งขึ้น
จากนั้นเธอก็ต้องมาเผชิญหน้ากับศัตรูตนใหม่อย่างห้าวหาญ
แต่ก็ไม่วายที่จะตกอยู่ในสถานการณ์คับขันอีกเช่นเคย......!?
( ผู้รับบท : มัตสึอุระ มิยาบิ )
ฮายามิ เจ็ทตะ : เพื่อนของ นาโอมิ ที่รู้จักกันตอนอยู่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นคนที่ร่วมก่อตั้งทีม SSP ขึ้นมา
โดยเขาจะทำหน้าที่เป็นคนอัพเดทข้อมูลบนเว็บไซต์และเป็นตากล้องให้กับทีม
ความฝันของเขาคือการทำสกู๊ปข่าวที่ทำให้โลกต้องตกตะลึงจนกลายเป็นคนดังผู้ร่ำรวย
ปัจจุบันนี้เขาก็ยังคงเสาะแสวงหาสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติจากสัตว์ประหลาดที่บุกเข้ามา
ด้วยความรู้สึกอันเร่าร้อน และเพื่อที่จะเผชิญกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้า
คราวนี้เขาจะมาแสดงพรสวรรค์ทางด้านเกมส์ต่อสู้อันน่าทึ่งให้พวกเราได้ดูกัน
( ผู้รับบท : ทาคาฮาชิ นาโอโตะ )
มัตสึโดะ ชิน : อัจฉริยะผู้เรียนข้ามชั้นมหาวิทยาลัยและจบปริญญาเอกได้ด้วยวัยเพียง 23 ปี
เขาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลให้กับทีม SSP
ด้วยความรู้ที่มีอยู่อย่างกว้างขวางตั้งแต่วิชาฟิสิกส์ล้ำยุคล้ำสมัย
ไปจนถึงตำนานแห่งอารยธรรมโบราณ แต่ทว่า,เรื่องทั่วๆไปในบางเรื่องเขากลับไม่ยักรู้
แม้ว่า ไก จะเดินทางลาจากไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงคิดค้นสิ่งประดิษฐ์อันทันสมัย
และมีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง
แถมคราวนี้สิ่งประดิษฐ์ของเขายังมีบทบาทต่อทีม SSP เป็นอย่างมากอีกด้วย !?
( ผู้รับบท : เนริโอะ ฮิโรอากิ )
ชิบุคาวะ อิทเท็ตสึ : คุณอาของ นาโอมิ กัปตันทีม SSP ซึ่งสังกัดอยู่ในหน่วยไวทอล
( VTL = Versatile Tactical Leader ) ของทีมสืบสวนพิเศษ
แม้ว่าเขาดูเป็นคนติดตลกเหมือนจะพึ่งพาอะไรไม่ค่อยได้
แต่ความจริงแล้วเขาเป็นถึงหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการข้อมูลพิเศษของหน่วยไวทอล
ที่พร้อมจะต่อกรกับผู้รุกรานโลกจากนอกอวกาศด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้า
และมักจะเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงในแนวหน้าอยู่บ่อยๆ
มาคราวนี้เขาก็ยังคงเผชิญกับการรุกรานครั้งใหม่อย่างกล้าหาญอีกเช่นเคย !?
( ผู้รับบท : ยานางิซาวะ ชินโกะ )
จากลาส จั๊กเกลอร์ : ในอดีตเขาเคยเป็นพรรคพวกที่อยู่ข้างเดียวกับแสง
และประชันฝีมือขับเคี่ยวกับ ไก มาโดยตลอด เพื่อที่ตนจะได้เป็นอุลตร้าแมน
แต่หลังจากที่แสงได้เลือก ไก เป็นผู้สืบทอด
จั๊กเกลอร์ ที่ตกอยู่ในภวังค์แห่งพลังด้านมืด
จึงตั้งตนเป็นศัตรูคู่อริของ ไก หรือ อุลตร้าแมนออร์บ
และหมายจะคืนชีพเหล่าจอมมารอสูร จนต้องมาปะทะกับ ไก หลายครั้งหลายหน
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ร่วมต่อสู้กับ อุลตร้าแมนออร์บ
เมื่อถึงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่
ดังนั้นพวกเราจึงต้องเฝ้าจับตาดูว่าเขาจะมีบทบาทอย่างไรหลังจากนี้ต่อไป
( ผู้รับบท : อาโอยางิ ทาคายะ )
โอโซระ ไดจิ : ชายหนุ่มผู้ ยูไนท์ ( รวมร่าง ) กับ อุลตร้าแมนเอ็กซ์
เขาทำหน้าที่เป็นทั้งนักวิจัยใน "ทีมห้องแล็บ" ของหน่วยวิจัยพัฒนาให้กับ Xio สาขาญี่ปุ่น
และเป็นเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวนพิเศษของ Xio
ผู้มีความใฝ่รู้ในสิ่งต่างๆและชอบออกไปเผชิญกับสัตว์ประหลาดอยู่ในแนวหน้า
ความใฝ่ฝันของเขาคือการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเหล่าสัตว์ประหลาด
เนื่องจาก อุลตร้าแมนเอ็กซ์ สัมผัสถึงภยันตรายบางอย่าง
เขาจึงได้ออกเดินทางสู่อวกาศพร้อมกับ อุลตร้าแมนเอ็กซ์ โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นกับดัก
( ผู้รับบท : ทาคาฮาชิ เคนสุเกะ )
โมโรโบชิ แดน : นักพเนจรไฟแรงผู้ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการรุกรานอันไร้มนุษยธรรม
เพราะความรู้สึกประทับใจในความกล้าหาญและความอ่อนโยนของชาวโลก
แดน จึงหลงรักโลกใบนี้และเคยต่อสู้ร่วมกับชาวโลก
ภายใต้สังกัด "หน่วยพิทักษ์อุลตร้า" มาแล้ว
เขาได้ใช้ "อุลตร้าอาย" แปลงกายเป็น อุลตร้าเซเว่น
เพื่อช่วยโลกใบนี้ให้รอดพ้นจากการรุกรานมานับครั้งไม่ถ้วน
แดน หรือ อุลตร้าเซเว่น ที่ปรากฎตัวออกมาในขณะที่พวกไกกำลังเข้าตาจน
คือผู้ที่จะมาช่วยกำราบผู้รุกรานคนใหม่ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการต่อสู้นับไม่ถ้วน !
( ผู้รับบท : โมริซึงุ โคจิ )
ฝ่ายเมอร์นาว
จอมโจรแม่มดอวกาศ MURNAL
อาชญากรแห่งความมืดผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์สไตล์ตะวันตกที่จู่ๆก็ปรากฎออกมา
ด้วยความที่เธอรักในของสวยๆงามๆมากจนเกินไป ประกอบกับจิตใจอันชั่วร้าย
เธอจึงคิดจะเปลี่ยนสิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นอัญมณีเพื่อนำมาเป็นของตน
ซึ่งเป้าหมายต่อไปที่จะกลายมาเป็นของสะสมอันชวนขนลุกของเธอ
เขาได้ใช้ "อุลตร้าอาย" แปลงกายเป็น อุลตร้าเซเว่น
เพื่อช่วยโลกใบนี้ให้รอดพ้นจากการรุกรานมานับครั้งไม่ถ้วน
แดน หรือ อุลตร้าเซเว่น ที่ปรากฎตัวออกมาในขณะที่พวกไกกำลังเข้าตาจน
คือผู้ที่จะมาช่วยกำราบผู้รุกรานคนใหม่ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากการต่อสู้นับไม่ถ้วน !
( ผู้รับบท : โมริซึงุ โคจิ )
ฝ่ายเมอร์นาว
จอมโจรแม่มดอวกาศ MURNAL
อาชญากรแห่งความมืดผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์สไตล์ตะวันตกที่จู่ๆก็ปรากฎออกมา
ด้วยความที่เธอรักในของสวยๆงามๆมากจนเกินไป ประกอบกับจิตใจอันชั่วร้าย
เธอจึงคิดจะเปลี่ยนสิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นอัญมณีเพื่อนำมาเป็นของตน
ซึ่งเป้าหมายต่อไปที่จะกลายมาเป็นของสะสมอันชวนขนลุกของเธอ
นั่นก็คือ อุลตร้าแมน และ ดาวโลก นั่นเอง
เธอได้กลายมาเป็นเจ้าของ ดาร์คริงก์ คนใหม่ และกำลังวางแผนก่อการร้าย
โดยการยกทัพสัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวมาบุกโจมตี
( ผู้รับบท : สึบากิ โอนิยัคโกะ )
มนุษย์ต่างดาวแยกร่าง ALIEN GUTS DOPPEL
ความสูง : 2 ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 200 ~ 1 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่สามารถควบคุมร่างแยกได้ตามใจชอบ
และพยายามจะไล่ต้อนสมาชิกทีม SSP ให้จนมุมแบบไม่ลดละ
มันคือหนึ่งในมนุษย์ต่างดาวที่ถูก เมอร์นาว ใช้ ดาร์คริงก์ เรียกออกมา
ชาวดาวนรกโลกันตร์ ALIEN HIPPORIT CALLISTO
ความสูง : 2 ~ 60 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวนรกโลกันตร์ที่ เมอร์นาว ใช้ ดาร์คริงก์ เรียกออกมา
ความสามารถในการต่อสู้ของมันจัดอยู่ในระดับสูง
เธอได้กลายมาเป็นเจ้าของ ดาร์คริงก์ คนใหม่ และกำลังวางแผนก่อการร้าย
โดยการยกทัพสัตว์ประหลาดและมนุษย์ต่างดาวมาบุกโจมตี
( ผู้รับบท : สึบากิ โอนิยัคโกะ )
มนุษย์ต่างดาวแยกร่าง ALIEN GUTS DOPPEL
ความสูง : 2 ~ 40 เมตร
น้ำหนัก : 200 ~ 1 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่สามารถควบคุมร่างแยกได้ตามใจชอบ
และพยายามจะไล่ต้อนสมาชิกทีม SSP ให้จนมุมแบบไม่ลดละ
มันคือหนึ่งในมนุษย์ต่างดาวที่ถูก เมอร์นาว ใช้ ดาร์คริงก์ เรียกออกมา
ชาวดาวนรกโลกันตร์ ALIEN HIPPORIT CALLISTO
ความสูง : 2 ~ 60 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : ชาวดาวนรกโลกันตร์ที่ เมอร์นาว ใช้ ดาร์คริงก์ เรียกออกมา
ความสามารถในการต่อสู้ของมันจัดอยู่ในระดับสูง
อีกทั้งยังสามารถบินได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว
ยิ่งพอมันได้มาจับคู่แท็กทีมกับ มนุษย์ดาวเท็มเพอร์เร่อร์ บาร์ทิสต้า ด้วยแล้ว
พวกมันก็ยิ่งแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณแบบยกกำลังสอง !?
มนุษย์ต่างดาวจอมหฤโหด ALIEN TEMPEROR BATISTA
ความสูง : 2 ~ 54 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 9 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวจอมหฤโหดที่ เมอร์นาว ใช้ ดาร์คริงก์ เรียกออกมา
อาวุธของมันคือ ลำแสงความร้อนสูง และ แส้ลำแสง ที่ปล่อยออกมาจากก้ามแขนทั้งสองข้าง
มันถูกจับคู่กับ มนุษย์ดาวฮิปโปริท คาร์ลิสโต้ ให้มาแท็กทีมกันบุกโลก
มังกรจักรกลดัดแปลง GALACTRON
ความสูง : 61 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : หุ่นยนต์เมก้าโรบ็อตรุ่นเดียวกับ กาแลคตรอน ที่เดินทางมาจากมิติอื่น
และเคยสร้างความยากลำบากให้แก่ทีม SSP และ อุลตร้าแมนออร์บ มาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้
คราวนี้ เมอร์นาว ได้จับมันมาดัดแปลงจนสามารถยิงลำแสง "กาแลคตรอนเจมสปาร์ค"
ที่สามารถเปลี่ยนวัตถุต่างๆให้กลายเป็นอัญมณีออกมาจากอกได้
จอมมารอสูรรวมร่าง Z-PANDON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ผนวกเอาพลังความสามารถของ เซ็ทต้อน กับ แพนด้อน มารวมเข้าไว้ด้วยกัน
แล้วใช้ท่าต่างๆระดมโจมตีแบบต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นท่าเคลื่อนที่ในพริบตา , ม่านพลังป้องกัน ( เซ็ทแพนด้อนชีลด์ )
หรือ กระสุนเพลิงโลกันตร์ ( กระสุนเพลิงพิฆาตเซ็ทแพนด้อน ) เป็นต้น
เหล่ามนุษย์ต่างดาวที่อยู่ใต้อาณัติของเมอร์นาว
กองทัพมนุษย์ต่างดาวลูกสมุนของ เมอร์นาว ที่ประกอบไปด้วย
ชาวกัลเมส , มนุษย์ต่างดาวแมลง ชาวดาวคุคารัช , อมนุษย์ดาวเคราะห์ มนุษย์จั๊กจั่นหญิง
มนุษย์ต่างดาวมือสังหาร ฮิวป์นัส , มนุษย์ต่างดาวสถิตย์ร่าง ชาวดาวเซอร์เพนท์ ,
ยิ่งพอมันได้มาจับคู่แท็กทีมกับ มนุษย์ดาวเท็มเพอร์เร่อร์ บาร์ทิสต้า ด้วยแล้ว
พวกมันก็ยิ่งแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณแบบยกกำลังสอง !?
มนุษย์ต่างดาวจอมหฤโหด ALIEN TEMPEROR BATISTA
ความสูง : 2 ~ 54 เมตร
น้ำหนัก : 3 หมื่น 9 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวจอมหฤโหดที่ เมอร์นาว ใช้ ดาร์คริงก์ เรียกออกมา
อาวุธของมันคือ ลำแสงความร้อนสูง และ แส้ลำแสง ที่ปล่อยออกมาจากก้ามแขนทั้งสองข้าง
มันถูกจับคู่กับ มนุษย์ดาวฮิปโปริท คาร์ลิสโต้ ให้มาแท็กทีมกันบุกโลก
มังกรจักรกลดัดแปลง GALACTRON
ความสูง : 61 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่น 1 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : หุ่นยนต์เมก้าโรบ็อตรุ่นเดียวกับ กาแลคตรอน ที่เดินทางมาจากมิติอื่น
และเคยสร้างความยากลำบากให้แก่ทีม SSP และ อุลตร้าแมนออร์บ มาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้
คราวนี้ เมอร์นาว ได้จับมันมาดัดแปลงจนสามารถยิงลำแสง "กาแลคตรอนเจมสปาร์ค"
ที่สามารถเปลี่ยนวัตถุต่างๆให้กลายเป็นอัญมณีออกมาจากอกได้
จอมมารอสูรรวมร่าง Z-PANDON
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่น 5 พันตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดที่ผนวกเอาพลังความสามารถของ เซ็ทต้อน กับ แพนด้อน มารวมเข้าไว้ด้วยกัน
แล้วใช้ท่าต่างๆระดมโจมตีแบบต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นท่าเคลื่อนที่ในพริบตา , ม่านพลังป้องกัน ( เซ็ทแพนด้อนชีลด์ )
หรือ กระสุนเพลิงโลกันตร์ ( กระสุนเพลิงพิฆาตเซ็ทแพนด้อน ) เป็นต้น
กองทัพมนุษย์ต่างดาวลูกสมุนของ เมอร์นาว ที่ประกอบไปด้วย
ชาวกัลเมส , มนุษย์ต่างดาวแมลง ชาวดาวคุคารัช , อมนุษย์ดาวเคราะห์ มนุษย์จั๊กจั่นหญิง
มนุษย์ต่างดาวมือสังหาร ฮิวป์นัส , มนุษย์ต่างดาวสถิตย์ร่าง ชาวดาวเซอร์เพนท์ ,
อมนุษย์คลื่นไฟฟ้า ชาวเรคูม
มนุษย์ต่างดาวจักรกล ALIEN GAPIYA SADES
ความสูง : 190 เซนติเมตร ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 190 กิโลกรัม ~ 3 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ ไก จนร่างกายท่อนล่างต้องกลายเป็นเครื่องจักร
คราวนี้มันได้ปรากฎตัวต่อหน้า ไก อีกครั้ง ภายหลังจากที่ล่วงเลยเวลามานานหลายพันปี
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ยากจะคาดเดา
มนุษย์ต่างดาวจักรกล ALIEN GAPIYA SADES
ความสูง : 190 เซนติเมตร ~ 50 เมตร
น้ำหนัก : 190 กิโลกรัม ~ 3 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : มนุษย์ต่างดาวที่เคยพ่ายแพ้ให้แก่ ไก จนร่างกายท่อนล่างต้องกลายเป็นเครื่องจักร
คราวนี้มันได้ปรากฎตัวต่อหน้า ไก อีกครั้ง ภายหลังจากที่ล่วงเลยเวลามานานหลายพันปี
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ยากจะคาดเดา
บวกกับความแอคทีฟของมันที่สามารถต่อสู้ได้อย่างไม่ลดละ
งานนี้พวกอุลตร้าแมนจึงต้องตกที่นั่งลำบาก
มันจะใช้ปืน "กาปิย่า สเนค" ที่ติดอยู่ตรงแขนขวา กับ ดาบที่มีชื่อว่า "ซาเดสติน" เป็นอาวุธ
อีกทั้งยังมีท่า "กาแลกติก้าซาเดสแฟคชั่น" เป็นหมัดเด็ดอันทรงพลังและร้ายกาจ
สัตว์ประหลาดจักรกล DAREBOLIC
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดจอมทำลายล้างที่ เมอร์นาว เป็นผู้บงการ
นอกจากอวัยวะทั่วทั้งร่างของมันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอาวุธแล้ว
มันยังมีเกราะอันแข็งแกร่งทนทานที่ช่วยในการป้องกันตัวสูง
แถมยังมี "จิวเวลิคเบรซ" ลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวที่ปล่อยออกมาจาก เจมอาร์ม ที่แขนขวา
ซึ่งมีอานุภาพในการเปลี่ยน อุลตร้าแมน ให้กลายเป็นผลึกคริสตัลได้อย่างง่ายดาย
ผลงานชิ้นนี้จะกล่าวถึงเรื่องราวต่อจากภาพยนตร์ "อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังแห่งสายสัมพันธ์ด้วยครับ !" ที่ลงโรงฉายไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2017 ที่ผ่านมา โดยจะออกอากาศในรายการ "อุลตร้าแมนเซโร่ THE CHRONICLE" ตอนละ 3 นาที รวมทั้งสิ้น 8 ตอน ทางสถานีเทเลบิโตเกียว ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 15 เม.ย. 2017 เวลา 9:00 น. เป็นต้นไป
ในภาคนี้ อุลตร้าแมนออร์บ จะต้องเผชิญกับ "พ่อมดหมอผีสัมภเวสี เรย์บาธอส" ศัตรูคนใหม่ผู้แข็งแกร่ง พร้อมกับ อุลตร้าแมนเซโร่ ลูกชายของอุลตร้าเซเว่น จนสามารถฟิวชั่นอัพเป็นร่างใหม่ได้ด้วยการขอยืมพลังจากสองพ่อลูก อุลตร้าเซเว่น และ อุลตร้าแมนเซโร่ โดยร่างใหม่นี้จะมีชื่อว่า "อุลตร้าแมนออร์บ เอเมเรี่ยมสลักเกอร์"
นอกจากนี้เราจะได้เห็น "อุลตร้าแมนออร์บ ไลท์นิ่งแอทแทคเกอร์" ซึ่งเป็นการฟิวชั่นอัพระหว่าง อุลตร้าแมนกิงกะ กับ อุลตร้าแมนเอ็กซ์ เป็นครั้งแรกในเรื่องนี้อีกด้วย หลังจากที่เคยปรากฎตัวแค่ในเกมส์กับงานอีเวนท์ก่อนหน้านี้เท่านั้น และแน่นอนว่าถ้าพูดถึง "อุลตร้าไฟท์" แล้ว เราจะได้ดูฉากต่อสู้แบบดุเด็ดเผ็ดมันของเหล่าอุลตร้าแมนกับสัตว์ประหลาดกันอย่างจุใจอีกเช่นเคย
เรื่องนี้ยังคงได้รับเกียรติจาก คุณซาคาโมโตะ โคอิจิ ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับและผู้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์แนวแอคชั่นฮีโร่ที่โด่งดังไปทั่วอเมริกา และเคยฝากผลงานการกำกับซีรีส์อุลตร้าแมนมามากมายนับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง "มอนสเตอร์แบทเทิ่ล อุลตร้ากาแลคซี่เลเจนด์ THE MOVIE" ในปี 2009 ซึ่งเป็นภาคเปิดตัว อุลตร้าแมนเซโร่ เป็นครั้งแรก มานั่งแท่นเป็นผู้กำกับอีกเช่นเคย
ULTRAMAN ORB LIGHTNING ATTACKER
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : 14 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 7 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 13 มัค
พลังกระโดด : 880 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก อุลตร้าแมนกิงกะ และ อุลตร้าแมนเอ็กซ์
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "เหล่าผู้ใช้ไฟฟ้าช็อตฝากด้วยนะครับ "
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า "อสุนีบาตคำราม กำราบความมืด !"
ร่างนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงคริสตัลสีฟ้าที่อยู่บนศีรษะเหมือนกับอุลตร้าแมนกิงกะ
และมี คัลเลอร์ไทม์เมอร์ ที่มีลักษณะเหมือนกับเอาตัวอักษร O กับ X มาซ้อนกัน
บนลำตัวที่คล้ายกับจักรกล
ULTRAMAN ORB EMERIUM SLUGGER
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : 13 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 5 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 4.5 มัค
พลังกระโดด : 900 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างใหม่ของ อุลตร้าแมนออร์บ ที่ได้รับพลังจากสองพ่อลูก อุลตร้าเซเว่น กับ อุลตร้าแมนเซโร่
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ปัญญาและความกล้าจงแปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่าง !"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในซีรีส์ Ultra Fight Orb
พ่อมดหมอผีสัมภเวสี RAYBATOS
ความสูง : 49 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : พ่อมดหมอผีผู้ควบคุมวิญญาณสัมภเวสีของเหล่าสัตว์ประหลาดเร่ร่อน
มันหมายจะปกครองอวกาศด้วยวิธีคืนชีพกองทัพสัตว์ประหลาดสัมภเวสี
แล้วให้พวกมันมากำจัดเหล่านักรบอุลตร้าให้สิ้นซากแบบถอนรากถอนโคน
Credit : http://m-78.jp/orb
http://m-78.jp/orb/saga
http://m-78.jp/orb/movie
Translated by : Grandking
งานนี้พวกอุลตร้าแมนจึงต้องตกที่นั่งลำบาก
มันจะใช้ปืน "กาปิย่า สเนค" ที่ติดอยู่ตรงแขนขวา กับ ดาบที่มีชื่อว่า "ซาเดสติน" เป็นอาวุธ
อีกทั้งยังมีท่า "กาแลกติก้าซาเดสแฟคชั่น" เป็นหมัดเด็ดอันทรงพลังและร้ายกาจ
สัตว์ประหลาดจักรกล DAREBOLIC
ความสูง : 60 เมตร
น้ำหนัก : 6 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : สัตว์ประหลาดจอมทำลายล้างที่ เมอร์นาว เป็นผู้บงการ
นอกจากอวัยวะทั่วทั้งร่างของมันจะถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอาวุธแล้ว
มันยังมีเกราะอันแข็งแกร่งทนทานที่ช่วยในการป้องกันตัวสูง
แถมยังมี "จิวเวลิคเบรซ" ลำแสงอันน่าสะพรึงกลัวที่ปล่อยออกมาจาก เจมอาร์ม ที่แขนขวา
ซึ่งมีอานุภาพในการเปลี่ยน อุลตร้าแมน ให้กลายเป็นผลึกคริสตัลได้อย่างง่ายดาย
**************************************************
**************************************************
อุลตร้าไฟท์ออร์บ
ขอยืมพลังของสองพ่อลูกด้วยครับ !
ผลงานชิ้นนี้จะกล่าวถึงเรื่องราวต่อจากภาพยนตร์ "อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังแห่งสายสัมพันธ์ด้วยครับ !" ที่ลงโรงฉายไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2017 ที่ผ่านมา โดยจะออกอากาศในรายการ "อุลตร้าแมนเซโร่ THE CHRONICLE" ตอนละ 3 นาที รวมทั้งสิ้น 8 ตอน ทางสถานีเทเลบิโตเกียว ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 15 เม.ย. 2017 เวลา 9:00 น. เป็นต้นไป
ในภาคนี้ อุลตร้าแมนออร์บ จะต้องเผชิญกับ "พ่อมดหมอผีสัมภเวสี เรย์บาธอส" ศัตรูคนใหม่ผู้แข็งแกร่ง พร้อมกับ อุลตร้าแมนเซโร่ ลูกชายของอุลตร้าเซเว่น จนสามารถฟิวชั่นอัพเป็นร่างใหม่ได้ด้วยการขอยืมพลังจากสองพ่อลูก อุลตร้าเซเว่น และ อุลตร้าแมนเซโร่ โดยร่างใหม่นี้จะมีชื่อว่า "อุลตร้าแมนออร์บ เอเมเรี่ยมสลักเกอร์"
นอกจากนี้เราจะได้เห็น "อุลตร้าแมนออร์บ ไลท์นิ่งแอทแทคเกอร์" ซึ่งเป็นการฟิวชั่นอัพระหว่าง อุลตร้าแมนกิงกะ กับ อุลตร้าแมนเอ็กซ์ เป็นครั้งแรกในเรื่องนี้อีกด้วย หลังจากที่เคยปรากฎตัวแค่ในเกมส์กับงานอีเวนท์ก่อนหน้านี้เท่านั้น และแน่นอนว่าถ้าพูดถึง "อุลตร้าไฟท์" แล้ว เราจะได้ดูฉากต่อสู้แบบดุเด็ดเผ็ดมันของเหล่าอุลตร้าแมนกับสัตว์ประหลาดกันอย่างจุใจอีกเช่นเคย
เรื่องนี้ยังคงได้รับเกียรติจาก คุณซาคาโมโตะ โคอิจิ ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับและผู้ควบคุมการผลิตภาพยนตร์แนวแอคชั่นฮีโร่ที่โด่งดังไปทั่วอเมริกา และเคยฝากผลงานการกำกับซีรีส์อุลตร้าแมนมามากมายนับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง "มอนสเตอร์แบทเทิ่ล อุลตร้ากาแลคซี่เลเจนด์ THE MOVIE" ในปี 2009 ซึ่งเป็นภาคเปิดตัว อุลตร้าแมนเซโร่ เป็นครั้งแรก มานั่งแท่นเป็นผู้กำกับอีกเช่นเคย
ULTRAMAN ORB LIGHTNING ATTACKER
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : 14 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 7 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 13 มัค
พลังกระโดด : 880 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างที่ อุลตร้าแมนออร์บ ขอยืมพลังมาจาก อุลตร้าแมนกิงกะ และ อุลตร้าแมนเอ็กซ์
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "เหล่าผู้ใช้ไฟฟ้าช็อตฝากด้วยนะครับ "
และเขาจะมีคำพูดติดปากในตอนที่ปรากฎตัวออกมาว่า "อสุนีบาตคำราม กำราบความมืด !"
ร่างนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงคริสตัลสีฟ้าที่อยู่บนศีรษะเหมือนกับอุลตร้าแมนกิงกะ
และมี คัลเลอร์ไทม์เมอร์ ที่มีลักษณะเหมือนกับเอาตัวอักษร O กับ X มาซ้อนกัน
บนลำตัวที่คล้ายกับจักรกล
ULTRAMAN ORB EMERIUM SLUGGER
ความสูง : 50 เมตร
น้ำหนัก : 5 หมื่นตัน
ความเร็วในการบิน : 13 มัค
ความเร็วในการวิ่ง : 5 มัค
ความเร็วเมื่ออยู่ในน้ำ : 4.5 มัค
พลังกระโดด : 900 เมตร
ลักษณะพิเศษ : ร่างใหม่ของ อุลตร้าแมนออร์บ ที่ได้รับพลังจากสองพ่อลูก อุลตร้าเซเว่น กับ อุลตร้าแมนเซโร่
โดยในตอน ฟิวชั่นอัพ เขาจะพูดขึ้นมาว่า "ปัญญาและความกล้าจงแปรเปลี่ยนเป็นแสงสว่าง !"
สัตว์ประหลาดที่ปรากฎในซีรีส์ Ultra Fight Orb
พ่อมดหมอผีสัมภเวสี RAYBATOS
ความสูง : 49 เมตร
น้ำหนัก : 4 หมื่นตัน
ลักษณะพิเศษ : พ่อมดหมอผีผู้ควบคุมวิญญาณสัมภเวสีของเหล่าสัตว์ประหลาดเร่ร่อน
มันหมายจะปกครองอวกาศด้วยวิธีคืนชีพกองทัพสัตว์ประหลาดสัมภเวสี
แล้วให้พวกมันมากำจัดเหล่านักรบอุลตร้าให้สิ้นซากแบบถอนรากถอนโคน
Credit : http://m-78.jp/orb
http://m-78.jp/orb/saga
http://m-78.jp/orb/movie
Translated by : Grandking
1 ความคิดเห็น:
ตอนที่ 9 ลืมเทเลสด้อนไปตัวนึงครับ
แสดงความคิดเห็น